ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

When sunrise, When I’m inside you (mark x jaemin) chapter two



//

Short fic
When sunrise, When I’m inside you
#markmin
chapter two
rate, 18+
hashtag, #ตะวันฉายแสง

//





มาร์คัสไปไหน

เสียงแจ้วของคุณหนูเจสเปอร์ดังขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับแรงลมพัดเบาให้ผมสีทองสลวยปลิวลู่ไปเล็กน้อย สาวรับใช้รับเอาแก้วเปล่าไร้ซึ่งของเหลวอย่างน้ำองุ่นก่อนหน้านี้ไปวางไว้บนถาดด้วยท่าทางอำอึ้งเก้กังให้ร่างผ่องเกิดความสงสัย

มาร์คัสไปไหน

เสียงถามย้ำนิ่งๆ แต่กลับกดเข้มยิ่งเพิ่มความเป็นกังวลให้สาวรับใช้มากขึ้นก่อนที่เบลล์สาวรับใช้คนสนิทจะเดินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งเอาเสื้อคลุมสีขาวมาสวมใส่ให้เจ้าของร่างผ่องอย่างช้าๆ พลางเริ่มเกริ่นพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบและค่อยเป็นค่อยไป

คุณมาร์คัสได้รับเรื่องจากคุณท่านกะทันหันเมื่อคืนค่ะ
เรื่องอะไร
ไม่ทราบค่ะคุณหนู
แต่มาร์คัสเป็นคนสนิทของฉัน คุณพ่อต้องบอกฉันด้วยสิ

คุณหนูแสนเอาแต่ใจเริ่มมีทีท่าทางหงุดหงิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินสิ่งที่สาวรับใช้พูดบอกออกมา คิ้วเรียวสวยเข้ารูปเริ่มขมวดเข้าหากันแน่นก่อนที่เสียงเปิดประตูจะดังขึ้นตามมาด้วยร่างสูงของพี่ชายร่วมสายเลือดของคุณหนูเจสเปอร์เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าคมคายพยักเพยินหน้าให้สาวรับใช้เดินออกไปจากห้องก่อนที่เจโน่จะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างผ่องของน้องชายของตัวเองด้วยท่าทีอันสงบนิ่ง

            มีอะไร

ร่างผ่องเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองพี่ชายฝาแฝดของตัวเองพลางยกแขนเรียวขึ้นกอดอกเข้าหากันเพราะยังรู้สึกกรุ่นโกรธเรื่องที่เจโน่เข้ามาขัดจังหวะของตัวเองกับมาร์คัสเมื่อคืนนี้

            ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยซะ คุณพ่อมีเรื่องจะคุยด้วย
            คุณพ่อมีเรื่องอะไรจะบอกน้องกันล่ะ
            อย่าถามเยอะจะได้มั้ยเจสเปอร์พี่ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตอบขนาดนั้น อยากรู้ก็ไปแต่งตัวเสียที
            ชิ

ปากบางสีชมพูเบะลงเล็กน้อยอย่างขัดใจเมื่อพี่ชายฝาแฝดของตัวเองชอบพูดออกมาอย่างไม่ค่อยแยแสร่างผ่องมากนักก่อนที่เท้าเล็กจะออกแรงกระทืบเท้าตอนเดินอย่างขัดอกขัดใจผ่านร่างสูงของเจโน่เพื่อเข้าไปยังห้องแต่งตัวของตัวเองทันที

            เฮ้อ ถ้าน้องรู้เรื่องมาร์คัสน้องจะยังเป็นแบบนี้อยู่มั้ยเจสเปอร์

เจโน่ถอนหายใจเบาๆ และพึมพำออกมาพลางยกมือใหญ่ของตัวเองเพื่อลูบใบหน้าอย่างเชื่องช้าก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องของน้องชายตัวเองไปพร้อมกับเอ่ยบอกสาวใช้ที่ยืนรออยู่หน้าห้องให้เข้ามารับช่วงต่อ




            คุณพ่อครับ

เสียงใสเปล่งเรียกร่างสูงวัยห้าสิบกว่าที่ยืนหันหลังให้กับโต๊ะทำงานและประตูอยู่ ใบหน้าเคร่งขรึมในคราแรกลดทอนอ่อนลงและเผยยิ้มบางให้กับลูกชายตัวเล็กที่กำลังยืนเอามือไขว่หลังอยู่หน้าประตูด้วยความใจดี

            มานั่งสิลูก
            คุณพ่อมีเรื่องอะไรกันครับถึงเรียกเจสเปอร์มาหาคุณพ่อที่ห้องทำงาน

คุณหนูแสนเอาแต่ใจเอ่ยถามเข้าประเด็นทันทีเพราะปกติแล้วถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรมากคุณพ่อจะคุยที่โต๊ะอาหารเสมอแต่ครั้งนี้คงเป็นเรื่องสำคัญมากพอสมควรถึงเรียกร่างผ่องมาที่ห้องทำงานแบบนี้

            ลูกอยากไปหาคุณแม่มั้ย
            คุณแม่อาการดีขึ้นแล้วหรือครับ
            ใช่ครับ ตอนนี้อาการคุณแม่ดีขึ้นแล้ว ลูกอยากไปหาคุณแม่ที่คฤหาสน์ริมธารมั้ย

ร่างผ่องแสดงสีหน้าดีใจอย่างเปิดเผยพลางยิ้มกว้างออกมาเมื่อรู้ว่าคุณแม่ของตัวเองที่ต้องรักษาตัวจากโรคที่เป็นอยู่กำลังอาการดีขึ้นมาอีกขั้น ใบหน้าเรียวเข้ารูปพยักรับคำถามคุณพ่อของตัวเองก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับไปทันที

            ไปครับ เจสเปอร์อยากไปหาคุณแม่
            ถ้าอย่างนั้นลูกก็ไปเตรียมตัวได้เลย พ่อจะให้คนขับรถไปส่งที่คฤหาสน์ริมธารเลยจะได้ไม่ไปถึงที่นั่นเย็นนัก

เจสเปอร์ยิ้มรับคำของบิดาก่อนที่จะลุกขึ้นหยัดยืนอย่างดีใจก่อนที่คนตัวเล็กจะฉุกคิดและทำหน้าฉงนเล็กน้อยซึ่งมันแสดออกถึงความลังเลอยู่จนผู้เป็นพ่อต้องเอ่ยถามออกมา

            เจสเปอร์ ลูกมีอะไรอยากจะถามพ่อหรือเปล่า
            เอ่อ ลูกอยากถามเรื่องมาร์คัสครับ
            “…”
            มาร์คัสไปไหนเหรอครับคุณพ่อ

คุณหนูตัวเล็กเอ่ยถามออกไปในที่สุดดวงตากลมใสทอดมองผู้เป็นพ่อที่มองอยู่เช่นเดียวกัน คนอายุเยอะกว่าไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา คุณพ่อของเจสเปอร์ทำหน้านิ่งสงบก่อนจะเดินอ้อมโซฟามานั่งลงข้างตำแหน่งที่เจสเปอร์ยืนอยู่

คุณหนูที่เริ่มรู้สึกสงสัยมากกว่าเดิมจึงนั่งลงกลับที่เดิมในตอนแรกที่ตัวเองนั่งอยู่พลางหันใบหน้าไปมองคุณพ่อที่กำลังก้มใบหน้าสายตาจดจ้องไปยังมือของตัวเองที่กุมเอาไว้ทั้งสองข้าง

            เรื่องของมาร์คัส พ่อไม่ได้อยากปิดลูก

หลังจากที่เงียบสงบกันอยู่นานสองนานคุณพ่อก็เริ่มเอ่ยปากพูดออกมา คนตัวเล็กรู้สึกใจกระตุกเล็กน้อยที่จู่ๆ คุณพ่อก็พูดเหมือนมีอะไรปิดบังเขาอยู่ ริมฝีปากบางสีแดงราวกับลูกเชอร์รี่ถูกเม้มเข้าหากันเพราะหัวใจที่เต้นระรัวตึกตักในช่องอก

            ม หมายความว่ายังไงครับคุณพ่อ
            “…”
            คุณพ่อมีเรื่องปิดบังลูก เรื่องมาร์คัส?”


//



ไปจัดการให้เรียบร้อย

เสียงเข้มเอ่ยพูดสั่งท่ามกลางลูกน้องที่กำลังค่อมหัวรับคำอย่างเคร่งครัด ชายชุดดำนับสิบคนที่ยืนรายล้อมอยู่ในคราแรกทยอยกันเดินออกจากห้องไปทันทีที่รับรู้หน้าที่ของตัวเองจากปากของคุณชายอย่างมาร์คัส

มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาลูบที่ใบหน้าของตัวเองช้าๆ ก่อนที่เสียงถอนหายใจจะดังออกมาพร้อมกับเสียงเปิดประตูดังขึ้นเรียกสายตาของมาร์คัสให้เหลือบขึ้นไปมอง

มาร์คัส
เจสเปอร์เป็นยังไงบ้าง
ก็จะบอกว่าสบายดีก็คงไม่ได้ คงช็อคเรื่องนายน่าดู

เขามองหน้าคนมาใหม่อย่างเจโน่ด้วยสายตานิ่งสงบหากแต่ในใจกลับร้อนรนเมื่อได้ยินว่าอีกคนที่เขาถามหานั้นคงกำลังรู้สึกแย่ไม่น้อยหลังจากรู้เรื่องของเขา

เขาขบกรามเข้าหากันแน่นพยายามคิดหาวิธีทางอย่างไรดีในการทำให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกแย่กับเรื่องของเขาหรือเขาจะลักลอบเข้าคฤหาสน์ของเจสเปอร์เพื่อไปหาคนตัวเล็กดี

อย่าได้คิดจะแอบไปหาน้องฉันล่ะแต่ถึงนายไปยังไงก็คงไม่เจอน้องฉันที่คฤหาสน์แล้วล่ะ
หมายความว่ายังไง เจสเปอร์ไปไหน
เรื่องนั้นฉันคงบอกนายไม่ได้ แต่ไม่ได้เป็นการเดินทางไปที่ไกลๆ หรอกนะฉันบอกนายได้แค่นี้

มาร์คัสเท้ามือลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาแม้มันจะไม่ช่วยให้ความรู้สึกคับอกอึดอัดหายออกไปแต่อย่างใดแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแย่ลงกว่าเดิมนักก่อนที่จะเงยหน้ากลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคุณชายเจโน่ตรงหน้าเอ่ยถามถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา

ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน
“…”
นายหามันเจอหรือยัง
ฉันส่งคนไปเอาตัวมันมาแล้วเหลือแค่เค้นถามมันเท่านั้นว่าใครอยู่เบื้องหลัง

เขาเอ่ยตอบเจโน่กลับไปพลางก่อนจะยื่นข้อมูลในแฟ้มสีดำสนิทส่งให้อีกฝ่าย พี่ชายฝาแฝดของเจสเปอร์รับไปถือก่อนที่จะเปิดดูประวัติด้านในเล่มก่อนที่จะสอดสายตาขึ้นมามองเขาพร้อมกับกดยิ้มที่มุมปากแล้วปิดแฟ้มลง

ถ้าพ่อฉันเห็นข้อมูลนี่คงใจอ่อนกับนายขึ้นมาบ้างแหละนะ
ฉันไม่อยากใช้เรื่องนี้เพื่อชนะใจคุณท่านหรอก
ศักดิ์ศรีตระกูลนักฆ่าของนายมันค้ำคอหรือยังไง

คำว่าตระกูลนักฆ่ามันก็เป็นเพียงคำพูดภายนอกที่ตระกูลของมาร์คัสแบกรับไว้เท่านั้นแหละมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจำต้องชื่นชมหรือชูคอรับมันไว้เคียงบ่าเสียเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากให้เรื่องงานพวกนั้นของตระกูลมาคอยบังหน้าเป็นสิ่งเยินยอแทนการกระทำของตัวเองจริงๆ ก็คงเป็นเพราะความรู้สึกอันสัตย์จริงที่มีต่อคุณหนูแสนเอาแต่ใจ

เปล่า
“…”
ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายต่างหากที่มันค้ำคอฉันอยู่



เสียงกระทบของจังหวัดการเดินของเจ้าของร่างสูงภายใต้ชุดสูทสีดำที่กำลังก้าวเดินอย่างมั่นคงก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะผลักเปิดบานประตูหนาซึ่งทำมาจากเหล็กกว้า ดวงตาคมเฉียบกวาดไปมองคนในห้องขนาดสีเหลี่ยมกว้างช้าๆ ก่อนที่จะหยุดสายตาลงที่ร่างสะบักสะบอมของบุคคลหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็กโดยมีชายชุดดำยืนประกอบข้างอยู่ไม่ห่าง

มันยอมพูดแล้วครับคุณชาย
ทำดีมากเชสเตอร์

ชายร่างสูงนามเชสเตอร์ผงกหัวรับคำของคุณชายที่ตัวเองเคารพก่อนที่มาร์คัสจะเยื้องย่างสาวเท้าเข้าใกล้หนอนบ่อนไส้ที่กำลังนั่งอยู่นิ่งๆ โดยที่มีเลือดสีเข้มเหนียวข้นไหลออกมาจากปากเป็นสาย

เขามองมันด้วยสายตาพิจารณาก็พอจะเดาออกได้ว่าหนอนบ่อนไส้ตัวนี้คงไม่ใช่มืออาชีพมากมายเสียเท่าไหร่ ดูจากบาดแผลที่ถูกคนของมาร์คัสซ้อมแล้วถือว่าเล็กน้อยพอสมควรในการยอมปริปากสารภาพบางอย่างออกมา

แต่สิ่งที่เขาไม่ประมาทก็คงเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของมันถึงหนอนบ่อนไส้ตัวนี้มันจะอ่อนหัดมากขนาดไหนก็จริงแต่คนที่นั่งเก้าอี้กุมบังเหียนอยู่เบื้องหลังคงมีอำนาจไม่น้อยไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถทำแผนให้หนอนบ่อนไส้อ่อนๆ ซับซ้อนได้มากขนาดนี้

ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

น้ำเสียงติดเรียบนิ่งแต่แฝงความดุดันของมาร์คัสเอ่ยถามขึ้นทันที มันเงยหน้าสะบักสะบอมของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะมองสบตากับเขาด้วยแววตาสั่นไหวระริกเพราะความกลัว

หึ คุณชายมาร์คัสมีความสามารถมากเลยนะครับที่ตามควานหาตัวผมจนเจอ
“….”
สมกับเป็นตระกูลนักฆ่าเวอร์เลนซ์จริงๆ นะครับ…”
เลิกเล่นลิ้นกับฉันสักที

กึก!
มาร์คัสเอ่ยตัดบทด้วยคำพูดราบเรียบแต่ดวงตาคมยังคงจดจ้องไปยังดวงตาที่สั่นไหวของมันอย่างเชือดเฉือน หนอนบ่อนไส้ตรงหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ในตอนที่เชสเตอร์ยกกระบอกปืนสีดำขลับมาจ่อที่ขมับหลังจากปลดเซฟตี้แล้วนั่นบ่งบอกได้ว่าสมองของมันพร้อมถูกเป่ากระจายเมื่อไหร่ก็ได้

ค คุณชายไม่ห่วงเธอเหรอครับ
“…”
ระหว่างที่คุณชายจัดการผมอยู่ที่นี่คุณเจเรดคงไปถึงตัวคุณเจสเปอร์แล้ว



//



เจสเปอร์
คุณแม่ครับ

เจ้าของร่างเล็กวิ่งเข้าไปสวมกอดผู้เป็นมารดาทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถ หัวเล็กๆ นั่นซุกไปกับบ่าของแม่อย่างออดอ้อนก่อนที่จะผละออกเพื่อยื่นใบหน้าเข้าไปหอดแก้มของคุณแม่ที่ตอบเล็กเล็กน้อยจากโรคที่เป็นอยู่

เข้าในไปในบ้านกันเถอะครับลูก
ครับ
แล้วพี่เจโน่ไม่มากับเจสเปอร์เหรอคะ
ไม่ครับ เห็นบอกว่าต้องไปทำงานอะไรสักอย่าง

คุณแสนเอาแต่ใจกลับกลายเป็นยัยคุณหนูขี้อ้อนยามที่อยู่กับพูดเป็นแม่เสียงเอ่ยโต้ตอบคำถามของเจสเปอร์ดังเจื้อยแจ้วไปทั่วทางโถงเดินระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพากันไปยังห้องนั่งเล่น คุณหนูเจสเปอร์ก็ทักทายคุณมาเรียสาวใช้คนสนิทของคุณแม่ด้วยความคิดถึง

คนตัวเล็กมักจะเรียกรอยยิ้มและความเอ็นดูจากคนของคุณแม่ได้เสมอจนกระทั่งทั้งคู่เดินมาถึงห้องนั่งเล่นกว้างที่เจสเปอร์ไม่ได้มานาน ทุกๆ อย่างคงคล้ายเดิมทั้งโซฟากำมะหยี่สีครีม โต๊ะกลมเล็กและที่นั่งจิบชาริมหน้าต่างที่ยังมีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาแต่ที่เปลี่ยนอย่างหนึ่งก็คงเป็นผืนผ้าใบที่ถูกแต่งแต้มด้วยลวดลายดอกไม้สวย

คุณแม่ของเจสเปอร์เป็นคนที่วาดรูปสวยมากคนัวเล็กจึงชอบที่จะมานั่งดูมารดาละเลงปลายพู่กันที่เปื้อนด้วยสีน้ำจากธรรมชาติเสมอพร้อมทั้งวาดรูปไปกับคุณแม่ด้วยเช่นกัน

หิวมั้ยครับลูก

คนตัวเล็กทำท่าคิดพลางเอามือแตะที่ข้างแก้มราวกับนึกถามตัวเองว่าหิวหรือเปล่าแต่ในวินาทีต่อมาก็เอ่ยตอบคนเป็นมารดากลับไปด้วยรอยยิ้มหวานและสีหน้าทะเล้นจนได้รับฝ่ามืออุ่นมาลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดูของคุณแม่

อืมหิวครับ
ป้ามาเรียทำของโปรดคุณเจสเปอร์ไว้ด้วยนะคะ
หรือว่า…”

คุณหนูขี้อ้อนหันไปยิ้มกว้างให้คุณป้ามาเรียคนสนิทก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ เพราะโดนคุณแม่เอ่ยพูดอย่างรู้ทันเสียก่อน

เค้กช็อคโกแลตชิ้นเดียวนะครับ แม่ไม่อยากให้หนูปวดท้อง
ครับ

คนตัวเล็กยิ้มรับพร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่จะนั่งลงข้างคุณแม่ที่กำลังเริ่มลงมือวาดรูปดอกไม้ต่อ รอยยิ้มบางกระจ่างจากมารดาทำให้คุณหนูเจสเปอร์รู้สึกหัวใจอบอุ่นขึ้นมาแม้ว่าความรู้สึกหลากหลายอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้กลับไม่จางลงเลยสักนิด

เรื่องของมาร์คัสยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเล็กๆ ทั้งคำพูดการบอกเล่าของคุณพ่อทำให้เจสเปอร์คิดไม่ตก คุณหนูแสนเอาแต่ใจนั่งเงียบนิ่งพลางเหม่อมองรูปดอกไม้ของคุณแม่ด้วยแววตาเศร้าสร้อย

เขาคิดถึงมาร์คัสคำนั้นมันวนเวียนซ้ไปซ้ำมาไม่หยุดแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายแอบแฝงเข้ามาในตระกูลเขาเพราะต้องการบางอย่างที่ไม่ได้หมายถึงสินทรัพย์ล้ำค่าแต่เป็นชีวิตของคนในตระกูลเจสเปอร์ก็ตาม หัวใจดวงน้อยกลับเรียกหาอีกฝ่ายจนคนตัวเล็กรู้สึกปวดใจไปหมด

แม้คุณหนูเจสเปอร์จะยังรู้ความจริงไม่หมดจากปากของผู้เป็นพ่อเพราะบิดาต้องการให้รู้เรื่องเพียงแค่นั้น เขาก็อดรู้สึกแย่และรู้สึกโหยหาอีกฝ่ายไม่น้อย คนเป็นพ่อบอกคนตัวเล็กเพียงว่าถ้าหากเรื่องทุกอย่างจบด้วยดีแล้วเขาอาจจะมีสิทธิ์ได้พบหน้ามาร์คัสอีกก็ได้

แต่คุณพ่อไม่ให้สัญญาว่าเจสเปอร์จะได้เจออีกคนเพราะสิ่งที่มาร์คัสทำอยู่เป็นเรื่องที่อันตรายและมาร์คัสต้องเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างจนจบเรื่องนี้

เขาไม่ถามต่อไม่ซักไซ้อะไรจากคุณพ่ออีกเพราะทั้งหมดเขารู้เพียงแค่ว่าที่มาร์คัสยอมบอกเรื่องทุกอย่างและยอมเป็นฝ่ายกลายเป็นเป้าจากตระกูลที่จ้างมาร์คัสเพราะการผิดสัญญา มาร์คัสยอมเสี่ยงเป็นอันตรายและรับมือกับเรื่องทั้งหมดจากการที่ผิดแผนเพียงเพราะอีกคนรักเจสเปอร์

ผมรักคุณหนูเจสเปอร์จากทั้งหมดของหัวใจและไม่อาจให้เขาต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายและความรู้สึกเสียใจที่เกิดจากการกระทำของผมได้เพราะอย่างนั้นผมจะรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น



To Be Continue.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CUT SCENE : [ OS : MARKMIN ] Naked (2/3)

Author gustmorning            แจมินเอ่ยจบประโยคก่อนที่เรียวนิ้วของอีกฝ่ายจะจับเข้าที่เม็ดกระดุมแล้วปลดมันออกจากรังดุมเสื้อสีขาวสะอาดบนตัว ดวงตาโตสวยสบเข้ากับดวงตาคมของมาร์คที่กำลังนอนมองแจมินอยู่พร้อมกับเรียวลิ้นของมาร์คที่ไล่เลียกรอบปากของตัวเองเมื่อแจมินกำลังถอดเสื้อออกจากเรือนร่างบอบบาง             จะยั่วกันไปถึงไหนวะ …             สะโพกและบั้นท้ายกลมกลึงใต้เนื้อกางเกงยีนส์ชั้นดีขยับเขยื้อนสัมผัสเข้ากับส่วนกลางลำตัวของเขาที่มันกำลังแข็งขื่นขึ้นมาจนคับแน่นภายในตัวไปหมด             มาร์คกำลังอดทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าเพื่อที่จะรอดูว่าแจมินจะจัดการยังไงต่อกับความต้องการที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของตัวเอง             แจมินโน้มตัวลงมาก่อนที่หน้าอกบางเปลือยเปล่านั่นจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกแกร่งของเขา ริมฝีปากเจ่อแดงของอีกฝ่ายกดฝังลงที่ซอกคอของเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะขบกัดดูดดึงลำคอของเขาจนมันเกิดรอยแบบเดียวกับที่มาร์คทำลงบนคอเรียวของแจมิน             เรียวลิ้นชื้นของอีกฝ่ายแลบเลียไปตามกรอบหน้าเขาน้อยๆก่อนที่เจ้าตัวจะกดกลีบปากนุ่มหยุ่นของตัวเองลงมาที่ริมฝีปากของเขา

(os) This is a secret of us, markmin

// (os) This is a secret of us mark x jaemin rate, 19 + hashtag, # ความลับของมาร์คมิน //             “ เดือนนี้เป็นหนที่สองแล้วนะแจมิน ” เสียงของผู้หญิงในวัยสี่สิบต้นๆพูดขึ้นด้วยความเอือมระอาไม่น้อย เธอทอดมองลูกชายตัวดื้อผ่านกระจกมองหลังที่กำลังนั่งวางมือเท้าคางมองออกนอกหน้าต่างรถอย่างที่ชอบทำประจำเวลาไม่อยากใส่ใจอะไรสักอย่าง             “ พวกนั้นหาเรื่องน้องแจมินก่อนนะฮะมัม ”             “ แต่ลูกทำเขาเข้าโรงพยาบาลสองคนเลยนะ ” เธอเอ่ยพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเด็กดื้อของตัวเองกำลังทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย แจมินขยับนั่งตัวตรงพิงแผ่นหลังไปกับพนักพิงของเบาะรถก่อนที่จะกอดอกมองสบตาผู้เป็นแม่ด้วยความขอโทษพร้อมกับบึนปากบางๆของตัวเองขึ้นอย่างน่าเอ็นดูขึ้นผิดกับรอยแผลแตกเลือดซึมที่มุมปากและความฟกช้ำบริเวณซีกแก้มขวาสองจุด             “ น้องแจมินซอรี่ฮะมัม ”             “ มัมละแพ้ลูกอ้อนขอโทษของลูกแบบนี้จริงๆเลยแจมิน ” แม่ของแจมินเอ่ยพูดบอกออกมาพลางส่ายหน้าส่ายหัวเบาๆพร้อมกับหักเลี้ยวพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทา