ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

When sunrise, When I’m inside you (mark x jaemin) chapter one


//

Short fic
When sunrise, When I’m inside you
mark x jaemin
chapter one
rate, 18+
hashtag, #ตะวันฉายแสง

//







เสียงพื้นรองเท้ากระทบเข้ากับกระเบื้องหินอ่อนชั้นดีอย่างเป็นจังหวะสะท้อนดังก้องกังวานไปทั่วโถงทางเดินกว้างสีนวลตาตามมาด้วยเสียงเปิดประตูบานใหญ่เผยให้เห็นภายในที่หรูหราเสียจนไม่คิดว่าห้องนี้คือห้องอาบน้ำ

สายตาของเหล่าผู้ดูแลสาวห้าคนที่ยืนขนาบข้างร่างนวลหันกลับมาจับจ้องที่ผู้มาใหม่ก่อนที่จะโค้งตัวก้มเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพพลางสลับหน้าที่กันใส่ชุดคลุมอาบน้ำให้กับเจ้าของร่างนวลเปลือยเปล่าที่ยืนหันหลังให้กับคนมาใหม่จนเสร็จสรรพเรียบร้อย

พวกหล่อนหันหลับมาด้านหลังโค้งเคารพอีกคราเพื่อขอตัวออกไปอย่างเงียบๆ ทั้งห้องตกอยู่ภายใต้ความเงียบเมื่อเสียงปิดประตูบานใหญ่นั้นปิดลงไป เจ้าของร่างนวลภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวอันหมิ่นเหม่หันหลังกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่เรียบเฉยก่อนที่นัยน์ตากลมสีเงินจะมองสบกับคนตัวสูงกว่า

            ใกล้ถึงเวลาไปที่งานแล้วนะครับคุณหนูเจสเปอร์
            “ใส่เสื้อผ้าให้ฉันสิมาร์คัส
            “ครับ
เจ้าของชื่อ มาร์คัส ปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายหลังจากที่ทั้งคู่เคลื่อนย้ายตัวมายังห้องชุดอีกห้องติดกับห้องอาบน้ำเมื่อครู่ สิ้นคำรับปากของมาร์คัสชุดคลุมอาบน้ำที่เคยปกปิดร่างนวลของคุณหนูเจสเปอร์ก็หลุดรนลงสู่พื้น

ร่างกายอันเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์บดบังปรากฏตรงหน้าของมาร์คัส แสงสีส้มอ่อนในห้องสะท้อนวาวกับผิวเนื้อไปตามสัดส่วนร่างกายยิ่งส่งให้ร่างนวลเปล่งประกายราวกับต้องแสงจันทร์ในยามวิกาล มาร์คัสก้าวหนึ่งก้าวขยับเข้าไปใกล้คุณหนูเจสเปอร์หลังจากหยิบชุดสูทสีขาวสะอาดตามาไว้ในมือ

คุณหนูเจสเปอร์อยู่ในชุดสูทสีขาวเรียบร้อยหลังจากที่มาร์คัสเป็นคนสวมใส่มันให้ทั้งหมดไม่ว่าจะทั้งภายในหรือภายนอก ก่อนที่สาวรับชะเข้ามารับช่วงต่อทันทีเพื่อเตรียมตัวให้เสร็จทันเวลางานเลี้ยงหรูที่ถูกจัดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลใหญ่

            มาร์คัสอยู่ไหน
            “อยู่ที่งานเลี้ยงค่ะคุณหนู
เสียงใสเปล่งถามขึ้นในขณะที่สาวรับใช้กำลังพรมน้ำหอมกลิ่นโปรดให้ตามจุดต่างๆบนร่างกาย เจ้าหล่อนคนหนึ่งเอ่ยตอบพลางรับน้ำหอมจากเพื่อนสาวใช้อีกคนไปเก็บมันไว้ที่เดิม

            ไปตามเขามาหาฉันที่ห้อง
            “แต่คุณหนูต้องเข้างานเลี้ยงแล้วนะคะ
            “ไปตามมา
            “ทราบแล้วค่ะ
หนึ่งในสาวรับใช้เอ่ยตอบอย่างยอมจำใจให้กับคุณหนูเจสเปอร์ที่เอ่ยอย่างเอาแต่ใจก่อนที่เจ้าของร่างนวลภายใต้สูทสีขาวจะเดินหลีกพวกหล่อนออกมาและตรงไปยังห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง

ก็อก! ก็อก!
ไม่นานเกินรอให้เกิดอาการหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดและปิดประตูตามมา เสียงการเดินเป็นจังหวะอันคุ้นหูมาหยุดลงที่ด้านหลังไม่ไกลบ่งบอกได้ว่าคนที่คุณหนูแสนเอาแต่ใจต้องการพบได้มาถึงแล้ว

แสงสีขาวนวลจากพระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างลอดผ่านหน้าต่างทรงสูงเข้ามา ดวงตากลมสีเงินวาววับสะท้อนความเปล่งประกายและความต้องการของตัวเองอย่างปิดไม่มิด

เรียวขาภายใต้กางเกงสีขาวเนื้อดีเยื้องย่องเข้ามาใกล้คนตัวสูงในขณะที่มาร์คัสก็เพียงแต่ยืนนิ่งมองร่างผ่องของคุณหนูเจสเปอร์เคลื่อนเข้ามาใกล้ทีละนิดจนในที่สุดระยะห่างสุดท้ายก็หมดลง 

แขนเรียวถูกยกขึ้นมาคล้องเข้าที่ลำคอแกร่งของมาร์คัสพร้อมกับใบหน้าค่อนไปทางสวยหวานของคุณหนูจะขยับมาอยู่ใกล้ให้ลมหายใจได้รินรดกัน

รอยยิ้มหวานถูกวาดขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับปลายจมูกรั้นที่ชนเข้ากับปลายจมูกโด่งของมาร์คัส ดวงตากลมสุกใสของคุณหนูเจสเปอร์ยังคงจับจ้องไปยังแววตาสีดำขลับของคนตัวสูงกว่าอย่างไม่ละสายตาราวกับต้องการจะสะกดมนต์ให้มาร์คัสลุ่มหลงในความเปล่งประกายและซื่อใสของตัวเอง

            “มาร์คัสวันนี้ฉันฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดด้วย หอมมั้ย

คุณหนูเจสเปอร์ไม่ว่าเปล่าแต่กระทำด้วยการเขย่งปลายเท้าของตัวเองให้ตัวสูงขึ้นเทียบเท่ากับมาร์คัสจนคนตัวสูงกว่าจำต้องวาดมือโอบเอวเว้าประคองของร่างผ่องเอาไว้ไม่ให้เอนล้มไปด้านใดด้านหนึ่ง 

อีกคนเอียงลำคอระหงของตัวเองในระดับเดียวกับปลายจมูกของมาร์คัส กลิ่มหอมอ่อนๆปะปนความเย็นชวนให้ผ่อนคลายแต่แฝงความเซ็กซี่ที่ให้ความรู้สึกอยากสูดดมมากกว่าเดิมไม่รู้ว่ามาจากกลิ่นน้ำหอมที่คุณหนูเจสเปอร์ฉีดหรือมาจากกลิ่นกายหอมประจำตัวของคุณหนูกันแน่เพราะมาร์คัสไม่ได้กดฝังจมูกของตัวเองลงกับผิวนุ่มของอีกคนมานานพอสมควรแล้ว

            “คุณหนูครับ
            “ไม่อยากกอดฉันเหรอ

แววตาซื่อใสที่แฝงไปด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับเขาถูกส่งออกมาจากสายตาของคุณหนูเจสเปอร์หลังจากที่อีกคนยอมถอยรนตัวเองกลับไปยืนประจันหน้ากันดังเดิม ไม่มีใครรู้ถึงความสัมพันธ์อันเกินเลยของทั้งคู่ ไม่มีใครรู้ว่ามาร์คัสและคุณหนูแสนเอาแต่ใจเคยกอดกันมากี่ครั้งแล้ว

มาร์คัสที่ควบตำแหน่งทั้งคนดูแลประจำตัวและคนสนิทของคุณหนูเจสเปอร์ทำได้เพียงแค่ขบกรามแน่นให้กับประโยคล่อแหลมเชิญชวนนั่นก่อนที่จะปล่อยมือที่ประคองเอวของคุณหนูออกเพื่อมาแกะแขนเรียวของคนตรงหน้าออกด้วยเช่นกัน

            “มาร์คัส…”

สีหน้าดื้อรั้นและริมฝีปากบางสีสดน่ามอบจูบอันแสนหวานให้ถูกเบะลงเล็กน้อยโดยเจ้าของผู้แสนเอาแต่ใจ ดวงตาเศร้าสร้อยระคนความโหยหาถูกส่งมาให้กับคนตัวสูงอยางชัดเจนจนมาร์คัสแทบจะห้ามใจไหวที่จะเข้าไปมอบความโหยหาอีกส่วนในตัวเองให้อีกคนอย่างลึกซึ้ง

            ยังกอดตอนนี้ไม่ได้ครับคุณหนู


//


เสียงดนตรีดังเคล้าคลอไปกับบรรยากาศหรูภายในคฤหาสน์ชวนให้แขกเรื่อที่มางานเพลิดเพลินไม่น้อย งานเลี้ยงนี้ถูกจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ

แขกมากหน้าหลายตาต่างเดินเข้ามาทักทายคุณหนูเจสเปอร์อย่างไม่ขาดสายทั้งสาวเจ้าลูกเต้าของนักธุรกิจที่ร่วมลงทุนและชายหนุ่มนักธุรกิจหลายคนที่พยายามเข้ามาสานสัมพันธ์อันมากกว่านั้น

คุณหนูแสนเอาแต่ใจเริ่มมีอาการหงุดหงิดก่อขึ้นในอกเล็กๆ ไม่ใช่เพราะเหล่าผู้คนที่เข้ามาทักทายตัวเองหากแต่เป็นเพราะคนดูแลประจำตัวของตัวเองกำลังถูกรุมล้อมด้วยสาวเจ้าหลายคน

พวกหล่อนต่างก็พยายามผลัดกันชวนมาร์คัสคุยอย่างสนุกสนามในขณะที่คนตัวสูงก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการร่วมวงสนทนากับพวกเธอ

สาวเจ้าคนหนึ่งหยิบแก้วไวน์ส่งให้มาร์คัสด้วยรอยยิ้มหวานเชื่อมราวกับโปรยเสน่ห์ให้ อีกคนรับแก้วไวน์นั้นมาถือไว้ด้วยความสุภาพและส่งรอยยิ้มตอบกลับไป สาวเจ้าเก้อเขินที่ได้รับรอยยิ้มนั้นก็เกิดอาการแก้มแดงอย่างปิดไม่มิด

คุณหนูแสนเอาแต่ใจกำลังรู้สึกถึงความคันยุบยิบในใจของตัวเองแต่ไม่สามารถแสดงกิริยาไม่น่ารักออกมาได้จึงทำได้เพียงเดินไปหยิบเอาเครื่องดื่มคอกเทลสีสวยขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากก่อนที่จะจิบมันทีละนิดแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปยังคนตัวสูงอยู่ดังเดิม

            คุณเจสเปอร์ใช่มั้ยครับ

เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะเบามาจากคนเรียกทางด้านหลังของตัวเอง คุณหนูเจสเปอร์หันกลับไปมองก็พบเข้ากับผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาราวกับงานประณีตชิ้นเอก

อีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้พลางยื่นส่งแก้วไวน์สีเข้มมาให้ มือเรียวรับมาถือไว้อย่างเป็นมารยาทแต่อีกคนยังคงส่งแก้วไวน์มาชนอีกครั้งเพื่อเป็นการชวนให้ดื่มทางอ้อมซึ่งคุณหนูเจสเปอร์ก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด

            น่ารักสมกับที่คุณพ่อผมบอกไว้จริงๆเลยนะครับ
            “ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ
            “พอได้มองใกล้ๆ แล้วมากกว่านั้นอีกครับ

รอยยิ้มหวานและเสียงหัวเราะถูกสร้างขึ้นโดยผู้มาใหม่เป็นคนรังสรรค์ คุณหนูเจสเปอร์ได้ความว่าผู้มาใหม่ชื่อ เจเรด เป็นนักธุรกิจที่ร่วมลงทุนกับโครงการใหญ่โครงการหนึ่งกับทางบริษัทด้วยเช่นกัน

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เจ้าของร่างผ่องยืนคุยกับเจเรดและไม่รู้ว่านานเท่าไหร่สำหรับแก้วไวน์สีเข้มในมือ ความมึนตึงเข้าเล่นงานคุณหนูเจสเปอร์เล็กน้อย มือเรียววางแก้วไวน์ที่เหลือเพียงน้อยนิดลงบนโต๊ะใกล้มือก่อนที่จะกระพริบตาปริบเพื่อปรับโฟกัสสายตาและพยายามดึงสติตัวเองกลับมา

            “เป็นอะไรไปครับ
            “สงสัยจะเมาแล้วน่ะครับ
            “คุณหนูครับ

เสียงของมาร์คัสดังขึ้นพร้อมกับร่างกายที่สูงกว่าเข้ามาประชิดที่ด้านหลังของคุณหนูแสนเอาแต่ใจ เจเรดมองไปที่มาร์คัสเล็กน้อยก็พบเพียงแค่ความเรียบนิ่งที่ฉาบชัดอยู่บนใบหน้า นักธุรกิจหนุ่มจึงถอยตัวห่างออกมาตามมารยาท

            มาร์คัส
            “ครับ
            “มึนหัว

คนดูแลประจำตัวของคุณหนูเจสเปอร์อย่างมาร์คัสเข้ามาประคองร่างผ่องผ่านผู้คนเพื่อเลี่ยงออกมาจากงานเลี้ยงก่อนที่จะช้อนอุ้มร่างของคุณหนูขึ้นมาแนบอกแล้วพาเดินตรงขึ้นมายังห้องนอนส่วนตัวทันที

เสื้อสูทและชุดถูกปลดถอดออกเหลือแต่เพียงเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีขาวเพื่อความสบายตัวให้กับคุณหนูที่นั่งนิ่งอยู่ที่ปลายเตียงกว้างขนาดคิงไซส์และเฝ้ามองการกระทำของมาร์คัสตั้งแต่ถูกอุ้มเข้ามาในห้อง

            มาร์คัส
            “ครับ
            “ฉันเหนียวตัว อยากอาบน้ำ

คนตัวสูงพยักหน้ารับคำของคุณหนูเจสเปอร์ก่อนที่จะออกจากห้องไปครู่หนึ่งเพื่อไปบอกสาวรับใช้ให้พวกหล่อนเตรียมน้ำให้ร่างผ่อง ไม่นานในบรรดาสาวรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาบอกว่าอ่างน้ำเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วและมาร์คัสยังคงทำเหมือนเดิมโดยการที่อุ้มคุณหนูเพื่อเดินไปยังห้องอาบน้ำ
           
พวกเธอออกไปก่อน

ไม่ใช่เสียงของคุณหนูเจสเปอร์ที่เป็นคนสั่งแต่เป็นเสียงเข้มของมาร์คัสที่เอ่ยบอกเหล่าสาวรับใช้ พวกหล่อมค่อมหัวรับก่อนที่จะเดินออกไป หน้าที่ทั้งหมดในการช่วยคุณหนูอาบน้ำในตอนนี้จึงตกเป็นของมาร์คัสทันทีคนตัวสูงปล่อยคุณหนูในอ้อมกอดลงบนพื้นหินเย็นๆ หลังจากที่พาเดินมาใกล้อ่างแช่น้ำก่อนที่มาร์คัสจะเริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง

ดวงตากลมใสมองคนดูแลประจำตัวที่กำลังปลดกางเกงขายาวสีขาวที่ช่วงขาออกให้จนมันร่วงหลุดลงสู่พื้นตามมาด้วยชั้นใจตัวจิ๋วที่ถูกปลดออกด้วยฝีมือมาร์คัสอีกรอบจนบนร่างเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวคลุมปิดบังส่วนล่างเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่

            ถอดเสื้อนะครับ
            “อาบน้ำด้วยกันนะมาร์คัส

มือของคนตัวสูงกว่าที่กำลังปลดกระดุมเสื้อออกจากรังดุมหยุดชะงักเมื่อประโยคเชิญชวนนั้นจบลง คุณหนูแสนเอาแต่ใจดึงรั้งสาบเสื้อสูทสีดำด้านนอกให้มาร์คัสขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นก่อนที่จะขยับนิ้วปลดกระดุมสูทด้านนอกออก

มาร์คัสก้มมองมือเรียวที่ขยับปลดกระดุมที่หน้าอกของตัวเองเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตบนตัวให้คุณหนูเจสเปอร์ต่อและถอดเสื้อบนร่างนวลอันเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายที่ปกปิดร่างออก

ความพยายามของคุณหนูแสนเอาแต่ใจเป็นผลเมื่อกระดุมทุกเม็ดของเสื้อมาร์คัสถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มหวานถูกวาดขึ้นบนใบหน้าของคุณหนูตามมาด้วยแขนเรียวที่คล้องโอบลำคอแกร่งเพื่อดึงรั้งให้มาร์คัสขยับเข้าแนบชิดจนปราศจากช่องว่าง

ใบหน้าเรียวสวยเอียงรับความใกล้ชิดจากมาร์คัสที่ขยับเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางสีแดงสดถูกทาบทับทันทีที่ร่างกายของทั้งคู่แตะสัมผัสลงกับน้ำอุ่นในอ่างกว้าง

มาร์คัสดันตัวของคุณหนูแสนเอาแต่ใจให้ขยับเข้าไปชิดกับขอบอ่างก่อนที่จะขยับตัวบดเบียดเข้าหาร่างนวลจนของเหลวอย่างน้ำแทบผ่านไม่ได้ ลมหายใจอุ่นของมาร์คัสรินรดกระทบเข้ากับผิวเนื้อแก้มขึ้นสีระเอของคุณหนูเจสเปอร์

ริมฝีปากหนาขยับเนิบนาบและดูดดึงกลีบปากสีสดจนมันแดงปลั่งขึ้นมาอย่างน่าเอ็นดู ฝ่ามืออุ่นใต้น้ำขยับวางลูบไล้เรียวขาของคนตัวเล็กกว่า มาร์คัสขยับแทรกตัวใต้ผิวน้ำเข้าไปที่ระหว่างขาของเจสเปอร์มืออีกข้างบีบเฟ้นผิวสีน้ำนมของคุณหนูแสนเอาแต่ใจจนอีกฝ่ายส่งเสียงอืออึงในลำคอ

เสียงจูบดังคละเคล้ากับเสียงหายใจถี่ของทั้งคู่ อุณหภูมิจากน้ำอุ่นเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่กำลังปะทุภายในร่างกาย ความวาบหวามจากการถูกสัมผัสทำให้คุณหนูเจสเปอร์อดที่จะส่งเสียงน่าอายออกมาไม่ได้

ขอโทษทีนะเจสเปอร์ แต่ตอนนี้ฉันต้องขอตัวมาร์คัส

เสียงทุ้มอันคุ้นหูดังขัดขึ้นในจังหวะที่ปลายจมูกโด่งของมาร์คัสกำลังไล่ไปตามแนวลำคอระหงของคนในอาณัติ มาร์คัสและเจสเปอร์ผละตัวออกจากกันก่อนที่คนตัวสูงจะหันหน้าไปมองยังประตูทางเข้าห้องน้ำที่มีผู้ชายตัวสูงยืนทำใบหน้าเรียบเฉยอยู่

            เจโน่ เข้ามาทำไม

เจโน่พี่ชายฝาแฝดของเจสเปอร์ยังคงยืนทำหน้านิ่งใส่น้องชายของตัวเอง ถ้าหากจะบอกว่าไม่มีใครเลยที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คงจะลืมไปว่ามีหนึ่งคนที่รู้โดยบังเอิญ

            มาตามตัวมาร์คัส
            “อะไรกัน

คุณหนูแสนเอาแต่ใจดูจะอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อมาร์คัสผละตัวเดินขึ้นจากอ่างอาบน้ำทันทีก่อนที่คนตัวสูงจะเดินไปทางด้านห้องแต่งตัวทันทีเผื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อยจากสภาพเปลือยเปล่า



//



            คุณหนูคะ ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะ
            “มาร์คัสล่ะ
            “รออยู่ที่ห้องอาหารแล้วค่ะ

ใบหน้าสวยเกิดอาการบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัดเพราะหลังจากที่เจโน่พี่ชายฝาแฝดของเจสเปอร์เข้ามาขัดจังหวะและตามมาร์คัสออกไป คนดูและประจำตัวของคุณหนูแสนเอาแต่ใจก็ไม่กลับมาส่งคุณหนูเข้านอนเช่นเคย

            รีบลงไปเถอะค่ะคุณหนู คุณท่านจะดุเอานะคะ

เบลล์ สาวรับใช้ผมสลวยสีทองเป็นอีกคนที่คุณหนูเจสเปอร์สนิทด้วยเอ่ยพูดออกมาพร้อมทั้งเดินเข้ามาใกล้เตียงที่ร่างผ่องยังคงนั่งนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าอ้อนวอนจนคนเอาแต่ใจยอมก้าวขาลงจากเตียงกว้างของตัวเอง

            ก็ได้



หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จไปมาร์คัสถูกคุณท่านเรียกตัวไปพบที่ห้องทำงานชั้นบนทันที คนตัวสูงเห็นสีหน้าอันบึ้งตึงของคุณหนูเจสเปอร์ที่โต๊ะอาหารชัดเจนแต่ก็ไม่ได้เข้าหาแต่อย่างใดเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าในตอนนี้

            นั่งสิ
            “ครับ

มาร์คัสนั่งลงตามคำเชิญของคุณท่านที่กำลังหันหลังมองผ่านกระจกอยู่ คนตัวสูงรู้ว่าคุณท่านเรียกตัวเองมาทำไมและรู้ว่าคุณท่านต้องการจะพูดอะไร

            ผมรู้เรื่องแล้วนะครับ
            “เรื่อง? เรื่องอะไรครับ แล้วทำไมคุณท่านเรียกผมแบบนั้น
            “คุณชายมาร์คัส เวอร์เลนซ์

คนถูกเรียกชื่อนั่งนิ่งไปทันทีมาร์คัสถอนหายใจเบาออกมาพร้อมกับสบตาคมของคุณท่านที่หันใบหน้ากลับมามองที่คนตัวสูง

            คุณท่านรู้ตั้งแต่ตอนไหนครับ
            “นั้นไม่สำคัญ

สายตาของผู้นำตระกูลใหญ่ตรงหน้าดูจริงจังและเคร่งขรึมขึ้นมาจนมาร์คัสนั่งนิ่งมากกว่าเดิม อีกฝ่ายเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานกว้างและมันเป็นเพียงสิ่งกีดขวางเดียวที่กั้นระหว่างมาร์คัสกับคุณท่านเอาไว้

            “…”
            “สิ่งที่สำคัญกว่าคือคุณแฝงตัวเข้ามาในตระกูลผมทำไม




To Be Continue.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CUT SCENE : [ OS : MARKMIN ] Naked (2/3)

Author gustmorning            แจมินเอ่ยจบประโยคก่อนที่เรียวนิ้วของอีกฝ่ายจะจับเข้าที่เม็ดกระดุมแล้วปลดมันออกจากรังดุมเสื้อสีขาวสะอาดบนตัว ดวงตาโตสวยสบเข้ากับดวงตาคมของมาร์คที่กำลังนอนมองแจมินอยู่พร้อมกับเรียวลิ้นของมาร์คที่ไล่เลียกรอบปากของตัวเองเมื่อแจมินกำลังถอดเสื้อออกจากเรือนร่างบอบบาง             จะยั่วกันไปถึงไหนวะ …             สะโพกและบั้นท้ายกลมกลึงใต้เนื้อกางเกงยีนส์ชั้นดีขยับเขยื้อนสัมผัสเข้ากับส่วนกลางลำตัวของเขาที่มันกำลังแข็งขื่นขึ้นมาจนคับแน่นภายในตัวไปหมด             มาร์คกำลังอดทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าเพื่อที่จะรอดูว่าแจมินจะจัดการยังไงต่อกับความต้องการที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของตัวเอง             แจมินโน้มตัวลงมาก่อนที่หน้าอกบางเปลือยเปล่านั่นจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกแกร่งของเขา ริมฝีปากเจ่อแดงของอีกฝ่ายกดฝังลงที่ซอกคอของเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะขบกัดดูดดึงลำคอของเขาจนมันเกิดรอยแบบเดียวกับที่มาร์คทำลงบนคอเรียวของแจมิน             เรียวลิ้นชื้นของอีกฝ่ายแลบเลียไปตามกรอบหน้าเขาน้อยๆก่อนที่เจ้าตัวจะกดกลีบปากนุ่มหยุ่นของตัวเองลงมาที่ริมฝีปากของเขา

When sunrise, When I’m inside you (mark x jaemin) chapter two

// Short fic When sunrise, When I’m inside you #markmin chapter two rate, 18 + hashtag, # ตะวันฉายแสง // “ มาร์คัสไปไหน ” เสียงแจ้วของคุณหนูเจสเปอร์ดังขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับแรงลมพัดเบาให้ผมสีทองสลวยปลิวลู่ไปเล็กน้อย สาวรับใช้รับเอาแก้วเปล่าไร้ซึ่งของเหลวอย่างน้ำองุ่นก่อนหน้านี้ไปวางไว้บนถาดด้วยท่าทางอำอึ้งเก้กังให้ร่างผ่องเกิดความสงสัย “ มาร์คัสไปไหน ” เสียงถามย้ำนิ่งๆ แต่กลับกดเข้มยิ่งเพิ่มความเป็นกังวลให้สาวรับใช้มากขึ้นก่อนที่เบลล์สาวรับใช้คนสนิทจะเดินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งเอาเสื้อคลุมสีขาวมาสวมใส่ให้เจ้าของร่างผ่องอย่างช้าๆ พลางเริ่มเกริ่นพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบและค่อยเป็นค่อยไป “ คุณมาร์คัสได้รับเรื่องจากคุณท่านกะทันหันเมื่อคืนค่ะ ” “ เรื่องอะไร ” “ ไม่ทราบค่ะคุณหนู ” “ แต่มาร์คัสเป็นคนสนิทของฉัน คุณพ่อต้องบอกฉันด้วยสิ ” คุณหนูแสนเอาแต่ใจเริ่มมีทีท่าทางหงุดหงิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินสิ่งที่สาวรับใช้พูดบอกออกมา คิ้วเรียวสวยเข้ารูปเริ่มขมวดเข้าหากันแน่นก่อนที่เสียงเปิดประตูจะดังขึ้นตามมาด้วยร่างสูงของพี่ชายร่ว

(os) This is a secret of us, markmin

// (os) This is a secret of us mark x jaemin rate, 19 + hashtag, # ความลับของมาร์คมิน //             “ เดือนนี้เป็นหนที่สองแล้วนะแจมิน ” เสียงของผู้หญิงในวัยสี่สิบต้นๆพูดขึ้นด้วยความเอือมระอาไม่น้อย เธอทอดมองลูกชายตัวดื้อผ่านกระจกมองหลังที่กำลังนั่งวางมือเท้าคางมองออกนอกหน้าต่างรถอย่างที่ชอบทำประจำเวลาไม่อยากใส่ใจอะไรสักอย่าง             “ พวกนั้นหาเรื่องน้องแจมินก่อนนะฮะมัม ”             “ แต่ลูกทำเขาเข้าโรงพยาบาลสองคนเลยนะ ” เธอเอ่ยพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเด็กดื้อของตัวเองกำลังทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย แจมินขยับนั่งตัวตรงพิงแผ่นหลังไปกับพนักพิงของเบาะรถก่อนที่จะกอดอกมองสบตาผู้เป็นแม่ด้วยความขอโทษพร้อมกับบึนปากบางๆของตัวเองขึ้นอย่างน่าเอ็นดูขึ้นผิดกับรอยแผลแตกเลือดซึมที่มุมปากและความฟกช้ำบริเวณซีกแก้มขวาสองจุด             “ น้องแจมินซอรี่ฮะมัม ”             “ มัมละแพ้ลูกอ้อนขอโทษของลูกแบบนี้จริงๆเลยแจมิน ” แม่ของแจมินเอ่ยพูดบอกออกมาพลางส่ายหน้าส่ายหัวเบาๆพร้อมกับหักเลี้ยวพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทา