One short
You are
my trouble
Casts
Park Chanyeol - Nyx
Byun
Baekhyun - Lior
Genre fantasy, Erotic
Rate
18+
Hash tag #TROUBLE614
HNY 2019
ท่ามกลางความมืดมิดและความเงียบสงัดที่รายล้อมบรรยากาศโดยรอบในยามรัตติกาล
ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของสรรพสิ่งใดๆ
ในตอนนี้แต่กลับมีเพียงเจ้าของร่างบอบบางในชุดนอนสีครีมขยับตัวกลิ้งไปทั่วผืนเตียงกว้างพลางลืมตาใสมองเพดานในความมืด
อันที่จริงลิเออร์หลับลงไปแล้วเมื่อประมาณสามชั่วโมงก่อนแต่กลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความฝันอันแปลกประหลาดของตัวเอง
ลิเออร์ฝันแบบนี้มาพักใหญ่แล้วและฝันถึงเกือบทุกวันรวมเวลาก็ประมาณสามอาทิตย์หลังจากที่เขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่หลังนี้
ในช่วงแรกเขานั้นไม่ได้คิดอะไรกับความฝันของตัวเองแต่นานวันเข้าความฝันที่เขาได้เห็นกลับเหมือนจริงทุกอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ
ไหนจะความรู้สึกที่ว่าเขานั้นไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง
ลิเออร์จำความฝันของตัวเองได้ดีและในฝันนั้นก็ไม่ได้มีเขาอยู่คนเดียวเช่นกัน
เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ถูกรายล้อมด้วยเพลิงกัลป์คนนั้นคือคนที่เขาฝันถึงทุกครั้งที่หลับตาลงสู่ห้วงนิทราในทุกๆ
ครั้ง
ชายผู้มากับเปลวเพลิงสีแดงมักจะเข้าใกล้ลิเออร์มากขึ้นทุกครั้งที่เขาหลับฝันจนเมื่อสามชั่วโมงที่ผ่านมา
คนคนนั้นคนในฝันของลิเออร์ขยับเข้ามาใกล้และได้ทำการแตะต้องตัวเขาพร้อมทั้งจับข้อมือของเขาเอาไว้นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดแบบนี้
ลิเออร์ยกมือข้างขวาของตัวเองขึ้นมาตรงหน้าก่อนที่จะมองฝ่ามือที่เคยถูกสอดประสานจับโดยชายในความฝันคนนั้น
ความรู้สึกอุ่นของสัมผัสยังคงติดตรึงอยู่ที่ฝ่ามือของเขาอย่างรู้สึกถึงได้
นั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกสงสัยแม้ในใจจะกลัวว่าสิ่งที่เข้าเห็นในความฝันนั้นจะเป็นอันตรายต่อลิเออร์ก็ตาม
นอนคิดเรื่องความฝันได้ไม่เท่าไหร่เจ้าของกลีบปากบางก็อ้าปากหาวบ่งบอกถึงความง่วงที่กำลังรุกเข้าเล่นงาน
เปลือกตาสีมุขหนักอึ้งอีกครั้งก่อนที่ลิเออร์จะตัดสินใจดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาปิดถึงช่วงคอของตัวเองและหลับตาลงเพื่อด่ำดิ่งสู่ห้วงนิทราอีกครั้งของคืนนี้
ในความมืดที่กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง
ดวงไฟสีแดงเพลิงกลับปรากฏขึ้นที่ปลายเตียงใหญ่
มันสว่างวาบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เศษประกายไฟสีแดงท้อประกายระยับผสมควันที่คล้ายฝุ่นผงจะฟุ้งกระจายในอากาศเต็มไปหมด
ฝุ่นผงที่ลอยละล่องอยู่ในอากาศในคราแรกเริ่มก่อรูปร่างทีละนิดก่อนที่จะแปรเปลี่ยนจากจากควันมากมายกลายเป็นร่างกายของคล้ายกับมนุษย์ตัวสูงใหญ่
ดวงตาโตกลมแต่กลับคมเฉียบอันมีนัยน์ตาสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลาจ้องมองไปยังเจ้าของร่างบางตัวน้อยบนเตียงกว้างที่หลับสนิทอยู่ก่อนจะเอ่ยพูดออกมาท่ามกลางความเงียบสงัดในตอนนี้
“ลิเออร์… ถึงเวลาที่เธอต้องรักษาสัญญากับผมแล้ว”
เสียงแสงแดดในตอนเช้าคือนาฬิกาปลุกชั้นดีของลิเออร์
คนตัวเล็กที่นอนอยุ่ค่อยๆ
ขยับกายของตัวเองน้อยๆ
พร้อมกับยกแขนเรียวขึันมาเพื่อปิดบังใบหน้าและคาดทับดวงตาของตัวเองเนื่องจากสายแสงของแดดในตอนเช้ากระทบเข้ากับดวงตาของเขาพอดิบพอดี
ลิเออร์ขยับตัวนอนหันข้างไปยังด้านระเบียงที่มีแสงเล็ดลอดผ่านเข้ามาพร้อมทั้งอากาศเย็นจากลมที่พัดโชยจากการที่ประตูระเบียงถูกเปิดอยู่
เจ้าของร่างบางมองไปยังนอกระเบียงด้วยึวามสงสัยเพราะเห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนยืนอยู่
ลมหายใจของเขาถูกกลั้นไปชั่วขณะก่อนที่เจ้าของร่างเล็กจะเด้งตัวขึ้นจากเตียงกว้างด้วยความตกใจ
เขายังคงไม่ละสายตาไปจากแผ่นหลังนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายหันหน้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ...
ลิเออร์”
อีกฝ่ายพูดออกมาพร้อมทั้งมองมายังใบหน้าของเขาราวกับว่าเรารู้จักกันมานาน
ลิเออร์ขยับตัวขึ้นไปชิดหัวเตียงเมื่ออีกคนเดินมานั่งลงที่ข้างเตียงใกล้กับเขา
คนตัวเล็กกว่ามองใบหน้าของคนด้านข้างก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกครั้ง
“ค
คุณ
คนในฝันเรา… อย่างนั้นเหรอ”
“นิกซ์”
“นิกซ์?”
“ครับ
นั่นคือชื่อของผม”
ลิเออร์มองคนร่างสูงที่นั่งหน้านิ่งเอ่ยบอกชื่อตัวเองด้วยความราบเรียบก่อนจะกระพริบตาปริบเมื่อกำลังเกิดอาการงงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว
“คุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง
ไม่สิเข้ามาในบ้านของผมได้ยังไงกัน”
เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้าพลางยกหมอนหนุนหัวนิ่มๆ
ของตัวเองมากอดเอาไว้แน่นราวกับว่ามันจะช่วยให้ตัวเขานั่นปลอดภัยจากคนตรงหน้าได้
“ผมอยู่ที่นี่กับคุณมาตั้งแต่แรกแล้ว”
“หมายความว่ายังไง
คุณเป็นผีเหรอ
ฮือ
ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเข้ามานะ
ผมกลัว”
คนตัวเล็กขยับตัวขลุกขลักพลางหดหน้าหดคอหนีจากการถูกนิกซ์มองจนคนตัวใหญ่กว่าขยับลุกขึ้นหยัดยืนข้างเตียงแทน
“ผมไม่ใช่ผีคุณไม่ต้องกลัวอะไร”
“ไม่ใช่ผีแล้วคุณเป็นอะไรเล่า”
เขาเอ่ยถามสวนอีกคนออกไปเสียงสั่นพลางโผล่ใบหน้าจากหมอนขึ้นมาแค่เพียงบริเวณตาและมองไปยังนิกซ์ที่ยืนจ้องมาทางเขาด้วยสายตานิ่งสงบเช่นเดิมก่อนที่อีกคนจะเอ่ยพูดออกมาช้าๆ
ให้เขาได้ยินอย่างชัดเจน
“ไม่ใช่ผี”
“....”
“แต่เป็นซาตาน”
นั่นเป็นครั้งแรกที่ลิเออร์กับนิกซ์ได้พบกันท่ามกลางห้องนอนสีครีมกว้าง
มีสายลม
และแสงแดดในยามเช้าเป็นประจักษ์พยานว่าซาตานปรากฏตัวต่อหน้าเขาตามที่เคยถูกบอกเล่าจากปากคุณปู่คุณย่าเมื่อยังเด็ก
//
ฟู่ว
เสียงลมหายใจดังออกมาจากปากเล็กเมื่อลิเออร์เป่าปากของตัวเองช้าๆ
ดวงตาเรียวรีทอดมองไปยังต้นดอกกุหลาบที่ตัวเขาลงมือปลูกเองอย่างชื่นชมก่อนจะยกข้อมือขึ้นเช็ดหน้าผากมนและข้างแก้มนุ่มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะแสงแดดในยามบ่ายกำลังเข้าเล่นงาน
“ไปไหนของเขานะ”
ลิเออร์เอ่ยพึมพัมออกมาเขาๆ
เมื่อรับรู้ได้ว่านิกซ์ไม่ได้อยู่ด้านในบ้านในตอนนี้
สายตาเองก็สอดส่องแต่ก็รู้ว่ายังไงตัวเองก็น่าจะมองนิกซ์ไม่เห็นหากอีกคนไม่ยอมให้เขาเห็น
เวลาล่วงเลยมาถึง
5
เดือนหลังจากวันที่ลิเออร์เจอนิกซ์ครั้งแรกในห้องนอน
คนตัวเล็กยอมรับเลยว่าช่วงแรกเขาเขากลัวนิกซ์มากๆ
ถึงขั้นอยากย้ายกลับเข้าบ้านในเมืองใหญ่
แต่นิกซ์ก็รู้ทันเขาตลอดและไม่ยอมปล่อยเขาให้หนีไปง่ายๆ
ลิเออร์กลัวว่านิกซ์จะทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำในวันนั้นที่เขาคิดหนี
แต่นิกซ์ก็ให้เหตุผลว่านิกซ์ไม่สามารถทำร้ายเขาได้เพราะเขาเป็นเจ้าของสัญญาซาตานที่ทำเอาไว้ตั้งแต่ยังเด็ก
ยิ่งกว่าอาการตกใจคืองงงวยในคำตอบของนิกซ์เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองไปทำสัญญาแสนอันตรายนี้ได้อย่างไรในสมัยเด็ก
และเหมือนว่านิกซ์อ่านใจของเขาออกอีกฝ่ายจึงให้คำตอบว่าปู่กับย่าของลิเออร์เป็นคนจับเขาทำสัญญาซาตานกับนิกซ์ไว้ตั้งแต่ตอนเด็ก
คำพูดนั้นทำให้เขายอมหยุดฟังนิกซ์ทันที
อีกฝ่ายพูดต่อในตอนที่เห็นเขาเงียบลง
นิกซ์บอกว่าสาเหตุที่คุณปู่คุณย่าของเขาจับเขาทำสัญญาซาตานนั้นก็เพื่อให้นิกซ์ค่อยเฝ้าดูแลเขาตราบชั่วอายุขัยของลิเออร์
ทั้งตระกูลของลิเออร์มีการสืบทอดการทำสัญญากับซาตานมาทุกรุ่นเพื่อมอบวิญญาณให้กับซาตานทุกหนึ่งร้อยปีเนื่องจากต้นตระกูลของลิเออร์ได้ไปขโมยศิลาวิญญาณของซาตานมาและใช้พลังของศิลาในการยืดอายุขัยให้คนในตระกูลและชุบชีวิตคนตายขึ้นมาซึ่งผิดกฎของนรกที่ฝ่ายซาตานไม่ต้องการเข้าไปยุ่งทำให้ยมทูตจากนรกและซาตานเกิดปัญหากันที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการก่อสงครามแห่งเพลิงกัลป์ขึ้น
นั่นจึงทำให้ซาตานต้องตามมาทวงคืนพลังจากศิลาวิญญาณโดยการทำสัญญาซาตานกับคนในตระกูลจนกว่าจะได้อายุขัยของดวงวิญญาณรวมกันครบสองพันห้าร้อยปีตามที่ต้นตระกูลได้ใช้มันจากศิลาวิญญาณและนำเศษเสี้ยวบางส่วนไปส่งให้กับยมทูต
นิกซ์ยังบอกอีกว่าสาเหตุที่คนในตระกูลบางคนของลิเออร์ไม่ได้ถูกจับทำสัญญาซาตานก็เพราะว่าซาตานจะมาทวงวิญญาณและทำสัญญาทุกหนึ่งร้อยปีแล้วในหนึ่งร้อยปีนี้คนที่ต้องมอบวิญญาณให้ซาตานก็คือปู่ของลิเออร์และคนที่ต้องทำสัญญาต่อก็คือลิเออร์เพราะอายุของปู่ลิเออร์คือหนึ่งร้อยปีและลิเออร์เกิดในครั้งที่นับทำสัญญาใหม่พอดีตามที่คนในตระกูลคาดการไว้
“เฮ้อ”
ยิ่งคนตัวเล็กคิดถึงเรื่องนั้นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสับสนไปหมด
แต่ก็ทำได้เพียงแค่โยนความรู้สึกพวกนั้นทิ้งจากใจไปเพราะยังไงมันก็แก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้อีกนอกจากทางนี้ทางเดียว
จะบอกว่ารู้สึกโกรธทางต้นตระกูลของตัวเองหน่อยๆ
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อีกเช่นกันจึงเลือกที่จะไม่ติดใจกับอะไรเลยเสียยังดีกว่า
ทุกวันนี้แค่ค่อยรับมือกับนิกซ์ที่ชอบโผล่ๆ
หายๆ
ลิเออร์ก็รู้สึกลำบากมากพออยู่แล้วไหนจะอาการมือไวใจเร็วของนิกซ์ที่ชอบเอะอะจับเอะอะกอดเขาอีก
จนเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านิกซ์ใช่ซาตานจริงมั้ย
มันช่างแตกต่างกับการปรากฏตัวเมื่อเดือนแรกมากโขทีเดียวเชียว
“นิกซ์
นิกซ์
หายไปไหนของเขากันแน่นะ”
เขาส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายเป็นครั้งที่สองหลังจากเดินเข้ามาในห้องนอนเพื่อที่จะไปอาบน้ำเนื่องจากเหงื่อกาฬที่ไหลออกมามากมายจนเสื้อเปียกชื้นเพราะไปปลูกต้นกุหลาบถึงสามต้นท่ามกลางแดดช่วงเที่ยงถึงบ่าย
คนตัวเล็กไม่สนใจที่จะเรียกนิกซ์ต่ออีกรอบ
เขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็วและหยิบเอาเสื่อคลุมมาใส่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำมาก่อนจะทำการเปิดน้ำใส่อ่างใส่สบู่ลงไปและทำให้มันเกิดฟองแบบที่เขาชอบแช่เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย
ขาเรียวก้าวลงอ่างกว้างด้วยขาทีละข้างก่อนที่เจ้าของร่างเพรียวอันเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์คลุมกายจะค่อยๆ
หย่อนตัวเองลงในของเหลวที่มีฟองปกปิดคลุมผิวน้ำอยู่
ศีรษะกลมๆ
เอนพิงกับขอบอ่างที่มีส่วนรองรับเอาไว้ก่อนที่จะค่อยๆ
หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากอากาศร้อนที่เคยเข้าเล่นงานมาก่อนหน้านี้
ผ่านไปสักพักคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มเมื่อกลิ่นของลาเวนเดอร์ลอยมาแตะจมูกรั้นขอบตัวเอง
เขาจำได้ดีว่ามันเป็นกลิ่นของเทียนหอมที่ตั้งเอาไว้ในห้องน้ำและเขารู้สึกว่านิกซ์อยู่ในห้องน้ำนี้เช่นเดียวกัน
“นิกซ์?”
“ครับ”
เปลือกตาสีมุขเปิดขึ้นอย่างช้าๆ
เมื่อลิเออร์รู้สึกได้ว่ามีคนมานั่งลงที่ขอบอ่างใกล้กับศรีษะของตัวเองอีกทั้งเสียงทุ้มนุ่มของนิกซ์ยังดังก้องอยู่ใกล้ๆเขาอีกด้วยเช่นกัน
“เข้ามาทำไมฉันอาบน้ำอยู่นะ”
ลิเออร์พูดออกมาเสียงแผ่วเมื่อสบตากับนิกซ์ที่ก้มหน้ามองเขาอยู่ใกล้ๆ
คนตัวเล็กรู้สึกหน้าร้อนผ่าวไม่น้อยที่นิกซ์มานั่งจ้องตัวเองแบบนี้อีกทั้งเขายังโป๊เปลือยอยู่ใต้น้ำด้วยนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเก้อเขินขึ้นมาเสียดื้อๆ
ซะอย่างนั้น
“อย่าโผล่มาแบบนี้จะได้มั้ยนิกซ์
ออกไปเลยนะ”
เขาเอ่ยบอกอีกฝ่ายพลางสไลด์ตัวลงกับอ่างอีกเล็กน้อยเพื่อให้ฟองสบู่มากมายช่วยปิดบังเรือนร่างของตัวเองเหลือเพียงแค่ส่วนลำคอขึ้นไปเนื่องจากจะหลบสายตาวาววับของนิกซ์ที่มองอยู่
เพราะสายตาแบบนั้นของอีกคนทำให้หัวใจของลิเออร์เต้นระรัวไปหมด
“ก็คุณเรียกหาผมไม่ใช่หรือยังไงกันครับ”
“ก่อนหน้านี้นายหายไปนี่”
“....”
“แต่ตอนนี้นายออกไปได้แล้ว
ฉันจะอาบน้ำ”
“ให้ผมช่วยอาบมั้ยครับ”
ลิเออร์มองสบตากับนิกซ์พลางกระพริบตาปริบๆ
ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองเพราะหัวใจเจ้ากรรมที่เต้นระรัวเสียจนเจ้าของแทบจะกลัวมันหลุดออกมา
นิกซ์เอ่ยพูดประโยคนั้นด้วยใบหน้านิ่งสงบแต่ดวงตาสีแดงเพลิงนั้นกลับฉายแววความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเด่นชัดเสียจนเขารู้สึกวูบไหวไม่น้อย
“ม
ไม่ต้องเลย
ออกไปได้แล้วนิกซ์”
“ครับ”
อีกฝ่ายเอ่ยตกปากรับคำก่อนจะลุกขึ้นหยัดยืนแล้วหายออกจากห้องน้ำไปทันทีต่อหน้าต่อตาลิเออร์
แต่เขาก็ชินเสียแล้วกับการโผล่มาและหายไปในลักษณะแบบนั้น
//
ก้าวเข้าสู่เดือนที่เก้าของการที่เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับซาตานที่รอคอยวิญญาณของตัวเอง
จะบอกว่าเขาปรับตัวได้ดีมันก็คงจะเป็นแบบนั้นและนิกซ์ทำให้เขาเคยชินกับการมีอีกฝ่ายค่อยช่วยนู่นช่วยนี่ตลอดทุกครั้งไม่ว่าจะทำกิจวัตรประวันหรืออะไรก็แล้วแต่ยกเว้นอาบน้ำ
นิกซ์ปลุกเขาในตอนเช้าเวลาเดิมทุกครั้ง
ช่วยทำอาหารของมนุษย์ทั้งๆ
ที่นิกซ์ไม่ต้องทานอะไรเลยด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายก็ทำให้เขาในทุกมื้ออาหารและในทุกๆ
วัน
ช่วยเตือนเวลาเขานั่งทำงานเพลิน
และช่วยส่งเขาเข้านอนในทุกๆ
คืน
อีกฝ่ายทำแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
และนอกจากการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นกับเขาแล้วยังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับนิกซ์ด้วยเช่นกัน
จากที่นิกซ์ไม่ค่อยยิ้มให้เขากลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายมีการแสดงความรู้สึกทางสีหน้ามากขึ้น
ไม่ได้ดูหยาบกร้านไร้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อน
และจากที่นิกซ์มีแค่มือไวจับกับกอดเขาแต่ทุกวันนี้อีกฝ่ายแทบจะไม่ปล่อยให้เขาเดินเองเลยด้วยซ้ำยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีกในเรื่องแบบนี้
“นิกซ์
ขอขยับตัวหน่อยสิ
ฉันจะนอนหันหน้าไปทางนาย”
เขาเอ่ยพูดออกมาเบาๆ
พลางก้มมองท่อนแขนแกร่งของนิกซ์ที่สอดรัดกอดเอวเข้าเอาไว้อยู่
นิกซ์ยอมคลายอ้อมกอดที่เอวให้หลวมขึ้นลิเออร์จึงขยับตัวหันไปนอนเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่กำลังนอนมองเขาอยู่
“ลิเออร์”
“หือ”
คนตัวเล็กในอ้อมกอดอุ่นเอ่ยตอบรับด้วยเสียงในลำคอเบาๆ
เมื่อตัวเองกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความอบอุ่นจากตัวของนิกซ์ที่แผ่ซ่านล้อมรอบตัวเขาไปหมด
“ผมจูบนะครับ”
นิกซ์พูดบอกออกมาพลางก้มมองใบหน้าของเขา
ตั้งแต่เดือนที่เจ็ดที่เราได้แลกเปลี่ยนรสจูบกันเพราะความผิดพลาดจากการสบตาและใกล้ชิดความเกินเลยจึงก่อตัวขึ้นช้าๆ
จากสัมผัสอันบางเบา
ทั้งเขาและนิกซ์ต่างก็พลาดพลั้งหลายครั้งคราจนกลายเป็นว่าเราทั้งคู่เสพติดมันโดยไม่รู้ตัว
ลิเออร์ไม่ได้ตอบกลับไปแต่เลือกที่จะสบตากับนิกซ์แทนการให้คำตอบ
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของรสจูบหวานฉ่ำครั้งที่สามของวัน
ริมฝีปากหนาขยับเม้มและดูดดึงกลีบปากบางช้าๆ
ก่อนที่จะส่งเรียวลิ้นเข้าไปด้านในกวาดต้อนเอาความหอมหวานแสนน่าลุ่มหลงของลิเออร์อย่างไม่รู้จักพอ
มือร้อนๆ
ของนิกซ์วางลงบนสะโพกของเขาก่อนที่จะออกแรงบีบมันเบาๆ
และเค้นคลึงมันช้าๆ
ซึ่งการกระทำแบบนั้นช่างชวนให้หัวใจของเขากระตุกไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว
ลิเออร์วางมือเรียวลงบนแก้มของนิกซ์ก่อนที่กดริมฝีปากและลำตัวเข้าหาอีกฝ่ายจนสัดส่วนร่างกายและใบหน้าของเราทั้งคู่แนบชิดสนิทกันเกือบทุกส่วน
แขนขากลัดเกยกันจนตัวแทบพันกันเป็นเกลียวบนผืนเตียงกว้าง
ผ้าห่มสีขาวสะอาดถูกเมินเฉยจากเราทั้งคู่จนมันไหลตกไปยังพื้นห้อง
เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นแทนความเงียบก่อนหน้าปะปนกับเสียงหายใจเข้าออกของเราทั้งสองที่ก้องไปทั่ว
จู่ๆ
แรงอารมณ์ที่มากมายกลับเทกองเข้ามาในห้วงความรู้สึกของลิเออร์
ทั้งๆ
ที่มันเป็นจูบที่เราทั้งคู่เคยทำกันมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้วด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้เขาแทบห้ามตัวเองไม่ได้เมื่อเขากำลังรู้สึกว่าตัวเองต้องการสัมผัสจากนิกซ์มากกว่านี้
มากกว่าการจูบที่อีกฝ่ายกำลังมอบให้
Nyx Part
ผมมองคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่กำลังนอนหนุนแขนของผมอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
มันเป็นความรู้สึกที่มากมายจนผมเกิดความประหลาดใจกับตัวเองไม่น้อย
ซาตานเป็นสิ่งที่ทุกคนหวาดกลัวและหวาดหวั่นเพราะซาตานเป็นสัญลักษณ์ของความลุ่มหลง
มัวเมา
และการพรากวิญญาณ
แต่กับตระกูลของลิเออร์พวกเขาต้องพบเจอกับสิ่งนี้ทุกๆ
หนึ่งร้อยปีของการมีชีวิตอยู่นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องทำใจและปรับตัวกับการที่ต้องพบเจอพวกเรา
ความชั่วร้าย
ราคะ
โทสะ
พวกเราจะไม่ก่อมันให้เกิดขึ้นหรือยุยงให้เกิดกับคนในตระกูลของลิเออร์
รวมถึงกฎหนึ่งวิญญาณหนึ่งความต้องการที่เรามักจะทำสัญญากับมนุษย์คนอื่นๆ
ทั่วไปเพื่อกลืนกินวิญญาณของพวกเขาจากการแลกกับสิ่งที่พวกต้องการ
พวกเราก็จะไม่ทำมันกับตระกูลของลิเออร์ด้วยเช่นกัน
เพราะคนในตระกูลของลิเออร์ต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ครบอายุขัยหนึ่งร้อยปีและหลังจากครบหนึ่งร้อยปีบริบูรณ์เราจะกักเก็บดวงวิญญาณของพวกเขาเอาไว้ในศิลาวิญญาณที่พวกเขาเคยขโมยมันมาจากโลกของซาตานหรือที่เรียกว่าโลกของคนตายและได้ใช้พลังวิญญาณของมันไปถึงสองพันห้าร้อยปี
สาเหตุนั้นทำให้โลกของคนตายและปรโลกอย่างนรกเกิดความขัดแย้งกัน
ยมทูตและซาตานผู้ที่ไม่ถูกกันมาก่อนการอยู่แล้วจึงใช้ข้ออ้างนี้ในการก่อสงครามเพื่อทำลายอีกฝ่าย
แต่สุดท้ายแล้วมันก็จบด้วยการที่เทพเจ้าแห่งนรกอย่างเฮดีสและปรปักษ์ของพระเจ้าอย่างลูซิเฟอร์ตกลงกันได้ในที่สุด
ทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายซาตานเองต้องเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากความหละหลวมของตัวเอง
ซาตานตระกูลคาเรย์ของนิกซ์ที่เป็นผู้ดูแลศิลาวิญญาณจึงถูกส่งมาทำสัญญากับตระกูลเดย์ลาโน่ของลิเออร์เพื่อรวบรวมอายุขัยของคนในตระกูลจนกว่าจะครบสองพันห้าร้อยปี
ลิเออร์ที่ตอนนี้อายุยี่สิบห้าปีบริบูรณ์เป็นคนสุดท้ายของตระกูลเดย์ลาโน่ที่จะถูกกักเก็บวิญญาณในอายุขัยหนึ่งร้อยปี
และนิกซ์คือซาตานตนสุดท้ายของตระกูลคาเรย์ที่จะต้องมาทำสัญญาซาตานและใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อดูแลดวงวิญญาณของคนในตระกูลเดย์ลาโน่ให้อยู่ถึงหนึ่งร้อยปีก่อนจะกักเก็บมันไว้
แต่ในตอนนี้มีสิ่งหนึ่งรบกวนจิตใจเขาไม่หยุดหย่อนก็คือเจ้าของวิญญาณตัวเล็กในอ้อมกอดเขา
นิกซ์ยอมรับได้ในทันทีว่าสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในห้วงความรู้สึกของตัวเองกำลังก่อเกิดมากขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนจนมันแทบเอ่อล้นออกมา
เขาตกหลุมรักเจ้าของดวงวิญญาณตัวเองน้อยที่ตัวเองเฝ้าดูแลมาตลอด
ลิเออร์อาจจะจำไม่ได้ว่าเขาเคยมาปรากฏตัวต่อหน้าอีกคนแล้วเมื่อตอนที่คนตัวเล็กอายุสิบสองปีบริบูรณ์
เขาค่อยมาเฝ้าดูแลอีกคนอย่างใกล้ชิดอยู่ช่วงหนึ่งและหลังจากที่ลิเออร์อายุครบสิบสามปีเขาจึงกลับมาล่องหนหายตัวเหมือนเดิมจนกระทั่งตอนนี้ที่เขามาปรากฏตัวอีกครั้ง
“นิกซ์
ขอขยับตัวหน่อยสิ
ฉันจะนอนหันหน้าไปทางนาย”
เขาคลายอ้อมกอดที่เอวของลิเออร์ให้หลวมขึ้นก่อนที่คนตัวเล็กจะเริ่มขยับร่างหยุกยิกแล้วหันพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับเขา
นิกซ์ก้มมองใบหน้านวลที่กำลังซุกอกของเขาอยู่ก่อนที่จะตัดสินใจเลื่อนตัวลงมาในระดับเดียวกับลิเออร์
จมูกของเราทั้งคู่เฉียดสัมผัสกันเล็กน้อยเพราะความใกล้ชิด
เขามองสบตากับอีกคนที่กำลังทอดสายตามองเขาอยู่ก่อนหน้าก่อนที่จะเอ่ยพูด
“ลิเออร์”
“หือ”
“ผมจูบนะครับ”
ไร้เสียงตอบรับจากอีกคนแต่แววตาที่สื่อส่งมาให้นิกซ์นั่นทำให้เขาขยับเข้าไปใกล้กับคนตัวเล็กมากขึ้น
ริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบเข้าหากันก่อนที่เขาจะเริ่มขยับบดเบียดจูบกับกลีบปากนิ่มของลิเออร์
จากความเงียบที่ลอยปกคลุมกำลังถูกแทนที่ด้วยเสียงเฉอะแฉะจากการกระทำของเราทั้งคู่
เขากวาดต้อนและกอบโกยเอาความหอมหวานจากลิเออร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทุกครั้งที่เขาสัมผัสอีกคน
นิกซ์กลับต้องการอีกฝ่ายมากขึ้นในทุกๆ ครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
เขาต้องการสัมผัสจากลิเออร์มากกว่านี้มากกว่าจูบที่เรากำลังทำมันอยู่
ร่างกายของเราทั้งคู่บดเบียดเข้าหากันมากขึ้นเมื่อแรงอารมณ์มากมายกำลังก่อตัวและต้องการปะทุอยู่ภายใน
ร่างกายของนิกซ์ร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูกยามที่วาดมือไปสัมผัสสะโพกกลมของอีกคนทั้งยังออกแรงขยำมันเบาๆ
เรียกเสียงครางในลำคอจากลิเออร์ได้อย่างดี
นิกซ์ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เขาเป็นเพียงแค่ซาตานชั่วร้ายที่มนุษย์หวาดกลัว
เขามีไฟแห่งโทสะ ราคะ ความชั่วร้าย และวิญญาณเป็นแรงขับเคลื่อนในการมีตัวตน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดว่าส่วนพวกนั้นเป็นตัวสร้างบรรยากาศในตอนนี้ขึ้นมา
เพราะนิกซ์คิดว่าสิ่งที่กำลังสร้างสุมอารมณ์ให้เขาคือความรู้สึกที่เรียกว่ารักและเขาเลือกที่จะไม่ปฏิเสธมันออกไปจากห้วงอารมณ์
“น นิกซ์”
อีกคนเม้มริมฝีปากเจ่อแดงของตัวเองเข้าหากันเมื่อเขาผลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้ให้อยู่ใต้อาณัติ
เขามองสบเข้าไปในดวงตาใสของลิเออร์ก่อนที่จะก้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายและเอ่ยพูดออกมาเบาๆ
แต่อีกคนก็คงได้ยินมันอย่างชัดเจน
“ผมรักคุณลิเออร์…”
“…”
“คุณอาจจะไม่เชื่อ
แต่ทั้งหมดที่ผมรู้สึกมันคือของจริงทั้งหมด”
ภายใต้ดวงตากลมใสกำลังสั่นระริกเขาไม่อาจรับรู้ได้ว่าตอนนี้ลิเออร์กำลังรู้สึกอย่างไรแม้ตัวเองจะเป็นปีศาจแต่ก็มิอาจล่วงล้ำเข้าไปในห้วงความรู้สึกของมนุษย์ได้เพราะความรู้สึกของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะกำบังให้คนทุกคนบนโลก เขาจึงต้องการรอรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดออกมาเอง
“ถ้าทั้งหมดที่นายรู้สึกเป็นของจริง”
“…”
“ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกับนาย”
นิกซ์เผยยิ้มบางออกมาเขากำลังรู้สึกดีใจและหัวใจเต้นระรัว
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะกี่ร้อยปีที่เขาได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขากำลังมีความรู้สึกที่เรียกว่าดีใจอยู่ในห้วงความอารมณ์
Nyx part end.
//
อาภรณ์บนร่างกายของลิเออร์ถูกปลดเปลื้องออกจากร่างกายไปตอนไหนคนตัวเล็กก็ไม่อาจรับรู้ได้
เพราะในตอนนี้สมองของเขาขาวโพลนไปหมด
ยามที่ร่างกายกำลังถูกรุกล้ำด้วยริมฝีปากร้อนของนิกซ์ที่กำลังหยอกล้อกับผิวกายขาวเนียนของเขา
อีกฝ่ายสร้างรอยสีแดงช้ำเอาไว้ยามที่ลากไล้ริมฝีปากผ่านทั่วร่างกายของเขา
ไอร้อนและความระอุเดือดปะทุจนร่างกายของลิเออร์ชื้นเหงื่อ
ยิ่งนิกซ์สัมผัสและวาดเฟ้นมือไปทั่วกายบางของเขามากเท่าไหร่ลิเออร์ยิ่งรู้สึกเสียวซ่านมากกว่าเดิม
ราวกับมีผีเสื้อนับพันตัวบินวนละล่องในท้องของเขาไม่หยุดหย่อนยามที่เราขยับกลับมาประกบริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้ง
มันเป็นจูบที่ดูดดื่มและกระหายอยากไม่น้อยยิ่งยามที่นิกซ์ไล่ลิ้นเลียริมฝีปากของเขาช้าๆ
ก่อนจะสอดเรียวลิ้นชื้นเข้ามากวาดต้อนเอาความหอมหวานไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักพอ
อีกฝ่ายแทรกตัวเข้ามาตรงระหว่างขาของเขาก่อนที่จะใช้ลำแขนแกร่งเท้าค้ำยันกับเตียงเพื่อพยุงตัวคร่อมลิเออร์เอาไว้
ไม่นานนักร่างกายกำยำของนิกซ์ปรากฏขึ้นตรงหน้าของลิเออร์เมื่ออีกฝ่ายทำให้เสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองหายไปได้ในพริบตา
เนื้อตัวของเราทั้งคู่เปลือยเปล่าท่ามกลางความมืดสลัวแต่เราทั้งคู่ต่างก็เห็นทุกความเคลื่อนไหวและร่างกายของอีกฝ่ายได้ดีดังเดิม
ความร้อนระอุจากแรงอารมณ์จากร่างกายของนิกซ์แผ่ซ่านมาถึงตัวเขายามที่อีกฝ่ายกำลังแนบตัวลงมาหาเขา
ผิวเนื้อของเราสัมผัสกันเล็กน้อยยามที่เรากำลังขยับตัวเข้าหากัน
หัวใจของนิกซ์เต้นระรัวเมื่อส่วนล่างของเรากำลังเสียดสีกันช้าๆ
“อ อือ”
เขาส่งเสียงครางในลำคอเมื่อนิกซ์ขยับตัวลุกขึ้นมือข้างหนึ่งของเราสอดประสานกันเอาไว้
ส่วนมือข้างที่ว่างของนิกซ์กำลังจับเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของเขาพลางเริ่มขยับมันจนลิเออร์จำต้องหดเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียววูบ
มือร้อนของนิกซ์กำลังปรนเปรอให้เขาดำดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาเป็นสายเปรอะเปื้อนมือใหญ่และหน้าท้องแบนราบของตัวเองพร้อมทั้งหอบหายใจน้อยๆ
จากการกระทำของนิกซ์เมื่อครู่
นิกซ์ยกยิ้มที่มุมปากและจ้องมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาพราวระยับ
ลิเออร์ไม่เคยเห็นนิกซ์ในรูปแบบนี้เลยอีกฝ่ายแสดงออกทางสีหน้าด้วยความเจ้าเล่ห์และหื่นกระหายเสียมากเสียจนเขาต้องหลบสายตาหนีไปมองมือของตัวเองข้างหนึ่งที่กำผ้าปูที่นอนเอาไว้
“ถึงคราวผมแล้วนะ”
“อือ”
เขาตอบรับเบาๆ
และหันกลับมาเผชิญหน้ากับนิกซ์อีกครั้งโดยที่อีกฝ่ายเชยปลายคางให้เขาหันหน้ามาก่อนที่จะป้อนจูบให้เขาอีกครั้ง
นิกซ์ถอนมือจากการจับประสานของเราออกก่อนที่จะจับแขนทั้งสองข้างของเขาให้คล้องคออีกฝ่ายเอาไว้
เจ้าของอาณัติกดตัวเข้าหาเขามากขึ้นอีกส่วนมือก็กำลังทำหน้าที่ขยับจับตัวตนของตัวเองเพื่อเตรียมการ
ก่อนที่จะไล้ปลายนิ้วไปตามขาเรียวของเขาแล้วมาหยุดอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของเขา
นิกซ์ป้อนจูบหนักขึ้นสลับกับสูดดมกลิ่นกายของเขาจากพวงแก้มและไล่จมูกซุกไซร้ซอกคอของเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปลายนิ้วที่กำลังสอดใส่เข้ามาในตัวของลิเออร์ทีละนิด
“อะ นิกซ์”
ก้านนิ้วยาวของอีกคนกำลังขยับอย่างเชื่องช้าอยู่ด้านในช่องทางของเขา
ปลายนิ้วอุ่นไล้แตะผนังอ่อนนุ่มกดย้ำไปตามทางก่อนที่จะเริ่มสอดนิ้วที่สองเข้าไปอีกครั้ง
กดย้ำสัมผัสลงน้ำหนักมากกว่าเดิมและเพิ่มจังหวะให้ถี่มากขึ้น
“อะ อา”
นิกซ์กดย้ำเข้าที่จุดกระสันภายในร่างกายของเขาจนลิเออร์ตัวเกร็งไม่น้อยมันทั้งเสียวซ่านและวูบวาบในช่องท้องไม่น้อยจนรู้สึกว่าตัวเองขยับช่องด้านรัดนิ้วของนิกซ์มากขึ้น
อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามในลำคอก่อนที่จะค่อยๆ ถอนก้านนิ้วยาวออกมาจนหมด
เจ้าของอาณัติสบตากับเขาหลังจากที่อีกฝ่ายผละใบหน้าออกมาจากซอกคอขาวของลิเออร์แล้ว
นิกซ์จ้องมองมาที่ดวงตาฉ่ำวาวของเขาด้วยสายตาสื่อความหมายก่อนที่จะเอ่ยพูดบอกออกมาเบาๆ
ที่ข้างใบหูนิ่มของลิเออร์ที่กำลังรอรับฟัง
“ครั้งนี้มันอาจจะเจ็บกว่าเมื่อกี้
ถ้าอยากให้หยุดก็บอกกันเลยนะครับ”
“….”
“ผมอยากให้เรามีความสุขด้วยกันมากกว่าทำคุณเจ็บ”
เขากัดริมฝีปากเจ่อแดงของตัวเองด้วยฟันซี่คมก่อนที่จะเหลือบสายตามองต่ำไปมองตัวตนของนิกซ์ที่กำลังผงาดอยู่กลางลำตัวของอีกคน
เขาคิดได้แค่ว่าถ้าอีกฝ่ายสอดใส่เข้ามาตัวเขาอาจจะฉีกออกเป็นสองส่วนเลยก็ได้ด้วยซ้ำ
ลิเออร์พยักหน้ารับอีกคนช้าๆ
เมื่อนิกซ์ยังคงรอคำตอบจากเขา มือใหญ่อันอบอุ่นส่งมาที่ข้างแก้มของเขาก่อนที่จะลูบไล้แก้มแดงระเรื่อของเขาเบาๆ
คนตัวใหญ่กว่าเริ่มขยับอีกครั้งเมื่อกำลังสอดใส่ตัวตนของตัวเองเข้ามาที่ช่องทางปิดสนิทของเขา
ความเจ็บคืบคลานเข้ามาในความรู้สึกของเขาลิเออร์ทันทีที่นิกซ์กำลังขยับดันตัวตนข้ามาทีละนิด
ใบหน้านวลที่ขึ้นสีแดงจากแรงอารมณ์เริ่มเหยเกเล็กน้อยก่อนที่นิกซ์จะก้มลงมาที่ซอกคอของเขาและไล่ริมฝีปากกดจูบอย่างเนิบนาบเพื่อเรียกความสนใจจากส่วนล่างที่กำลังดุนดันเข้าไปในตัวของคนตัวเล็กกว่า
ลิเออร์กัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกเสียวซ่านและเจ็บน้อยๆ
แต่เขาก็ค่อยๆ ผ่อนคลายตัวเองเพื่อให้ตัวตนของนิกซ์สอดใส่เข้ามาได้จนสุดลำความยาว
คนตัวเล็กกว่าเองก็รับรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็อึดอัดไม่น้อยเช่นเดียวกันที่เข้าได้ไม่หมดเสียทีแต่สุดท้ายเพราะอารมณ์ของเราทั้งคู่ที่ต่างแลกเปลี่ยนปรนเปรอกันตัวตนของนิกซ์จึงเข้ามาในตัวเขาได้จนสุด
ร่างกายของเราทั้งคู่สอดประสานกันรวมทั้งความรู้สึกที่รอยคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
ลิเออร์รั้งแขนของตัวเองให้ใบหน้าของนิกซ์กดต่ำลงมาก่อนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มบทจูบอีกครั้ง ส่วนล่างของนิกซ์เริ่มขยับเมื่อรับรู้ว่าอีกคนผ่อนคลายได้มากขึ้น
จากความเจ็บในคราแรกกำลังแปรเปลี่ยนเป็นพันธนาการความเสียวซ่านที่ไหลล้นเข้ามาในห้วงความรู้สึกของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ตัวของลิเออร์ขยับไปตามแรงกระทำของนิกซ์ที่กำลังถี่มากขึ้น
ผ้าปูที่นอนที่เรียบตึงในตอนแรกยับยู่ไปหมดเพราะบทรักของเรา
“น นิกซ์ อือ”
“อา”
ห้วงอารมณ์ของเราทั้งคู่ปะทุมากขึ้นในยามที่นิกซ์กำลังสอดใส่เข้ามาในตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและลิเออร์เองก็ตอบรับร่างกายของอีกคนอย่างแนบแน่นเสียจนนิกซ์แทบคลั่ง
อารมณ์มากมายพุ่งสูงเสียจนติดเพดานก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดออกมาจนหยดสุดท้ายภายในร่างกายของลิเออร์และเลอะล้นออกมา
เราทั้งคู่หอบหายใจออกมาเหงื่อกาฬเม็ดใสไหลซึมจากใบหน้า
ลำตัว ไรผมจนชื้นไปหมดอากาศในห้องที่เย็นสบายอยู่ก่อนหน้านี้กลับร้อนเสียจนแทบบ้า
ตัวตนของนิกซ์ยังคงสอดใส่อยู่ในตัวของลิเออร์และนั่นทำให้ลิเออร์รู้ว่าความร้อนระอุภายในกำลังจะก่อการปะทุอีกครั้ง
“ผมรักคุณ”
“ฉันก็รักนาย”
ค่ำคืนที่มืดสนิทกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ
รวมทั้งทั้งสองร่างที่กำลังเกี่ยวพันกอดรัดกันอยู่บนผืนเตียงกว้างด้วยเช่นกัน
ความโหยหาและความต้องการของเราทั้งคู่สิ้นสุดลงในตอนใกล้รุ่งสางแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมานอนกอดรัดจนถึงช่วงสายของวันเพราะความอ่อนเพลียจากการมอบความรักให้กันจากเมื่อยามราตรี
//
สองเท้าเล็กเดินไปตามบันไดของบ้านด้วยความเคยชินก่อนจะเดินขึ้นมายังชั้นสองที่เงียบสงบ
ลิเออร์ไม่ได้เดินไปที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ทางปีกฝั่งซ้ายแต่อย่างใดแต่คนตัวเล็กกลับเดินไปยังปีกฝั่งขวาแทนเพราะฝั่งนี้มีห้องสมุดขนาดกว้างอยู่และนั่นก็เป็นที่ที่นิกซ์ชอบมาหมกตัวอยู่
ประตูบ้านไม้ตรงหน้าถูกเปิดออกด้วยมือเรียวก่อนที่เขาจะเคลื่อนย้ายตัวเองเข้ามาด้านในที่สะอาดสะอ้านเหมือนใหม่ไรฝุ่นผงเกาะแต่อย่างใด
เจ้าของดวงตาเรียวกวาดมองไปรอบช่องชั้นวางหนังสือก่อนจะเดินไปที่โต๊ะติดหน้าต่างที่มีหนังสือเล่มหนึ่งว่างอยู่
เขารู้ได้ทันทีเมื่อเดินเข้าไปใกล้ว่าตรงนี้นิกซ์เคยนั่งอยู่ก่อนแต่ก็ต้องทอดสายตามองหาอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
ลิเออร์เองก็ไม่ได้เดินไปไหนก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้เพื่อรออีกฝ่าย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักลิเออร์ก็รู้สึกถึงการมาของนิกซ์คนตัวเล็กขยับใบหน้ามองซาคตานตัวสูงที่จู่ๆก็ปรากฏตัวนั่งอยู่เก้าอี้ข้างกัน
“ไปไหนมา”
“ไปหาหนังสือจากชั้นสองมาน่ะครับ”
“อ่านให้ฟังบ้างสิ”
“ครับ”
นิกซ์เอ่ยพูดตอบรับออกมาพร้อมทั้งเผยยิ้มบางๆ
ให้เขาได้เห็นก่อนที่เสียงของอีกฝ่ายจะเริ่มดังขึ้น
ลิเออร์นอนมองใบหน้าของคนที่กำลังพูดเล่าสิ่งที่อ่านอยู่ด้วยความตั้งใจพลางคิดในใจว่าถ้าหากตัวเองไม่ได้เจอนิกซ์จะเป็นอย่างไร
เขาอาจจะเป็นคนเหงาๆ ในบ้านหลังใหญ่นี่คนเดียว
แต่ตอนนี้ลิเออร์กำลังรู้สึกขอบคุณการมีอยู่ของนิกซ์มากๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งอีกฝ่ายจะหื่นกามมากไปผิดลักษณะของซาตานผู้หน้ากลัวน่าเกรงขามไปเสียหมดก็ตาม
“นิกซ์”
“ครับ”
นิกซ์หันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่อย่างไม่ปิดบังพร้อมทั้งยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้กับลิเออร์มากขึ้นก่อนที่จะกดริมฝีปากลงกับกลีบปากของเขาโดยไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด
นิกซ์และเขาจ้องมองสบตากันเราต่างก็รับรู้ได้ดีว่าเราทั้งคู่นั่นรู้สึกเหมือนกันมากขนาดไหนและมันก็มากพอที่จะทำให้เขาและนิกซ์อยู่ด้วยกันได้ตลอดไปจนกว่าจะครบสิ้นอายุขัยของตัวเอง
“ฉันรักนายนะ”
“ผมก็รักคุณครับ”
END
#TROUBLE614
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะชาวชานแบคทุกคน
ด้วยรัก
gustmorning
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น