ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

(one short) You are my trouble, chanbaek #TROUBLE614






One short
You are my trouble



Casts              Park Chanyeol       - Nyx
                       Byun Baekhyun     - Lior
Genre            fantasy, Erotic
Rate               18+
Hash tag      #TROUBLE614
HNY 2019 



ท่ามกลางความมืดมิดและความเงียบสงัดที่รายล้อมบรรยากาศโดยรอบในยามรัตติกาล ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของสรรพสิ่งใดๆ ในตอนนี้แต่กลับมีเพียงเจ้าของร่างบอบบางในชุดนอนสีครีมขยับตัวกลิ้งไปทั่วผืนเตียงกว้างพลางลืมตาใสมองเพดานในความมืด

อันที่จริงลิเออร์หลับลงไปแล้วเมื่อประมาณสามชั่วโมงก่อนแต่กลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความฝันอันแปลกประหลาดของตัวเอง ลิเออร์ฝันแบบนี้มาพักใหญ่แล้วและฝันถึงเกือบทุกวันรวมเวลาก็ประมาณสามอาทิตย์หลังจากที่เขาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่หลังนี้

ในช่วงแรกเขานั้นไม่ได้คิดอะไรกับความฝันของตัวเองแต่นานวันเข้าความฝันที่เขาได้เห็นกลับเหมือนจริงทุกอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะความรู้สึกที่ว่าเขานั้นไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง ลิเออร์จำความฝันของตัวเองได้ดีและในฝันนั้นก็ไม่ได้มีเขาอยู่คนเดียวเช่นกัน

เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ถูกรายล้อมด้วยเพลิงกัลป์คนนั้นคือคนที่เขาฝันถึงทุกครั้งที่หลับตาลงสู่ห้วงนิทราในทุกๆ ครั้ง ชายผู้มากับเปลวเพลิงสีแดงมักจะเข้าใกล้ลิเออร์มากขึ้นทุกครั้งที่เขาหลับฝันจนเมื่อสามชั่วโมงที่ผ่านมา คนคนนั้นคนในฝันของลิเออร์ขยับเข้ามาใกล้และได้ทำการแตะต้องตัวเขาพร้อมทั้งจับข้อมือของเขาเอาไว้นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดแบบนี้

ลิเออร์ยกมือข้างขวาของตัวเองขึ้นมาตรงหน้าก่อนที่จะมองฝ่ามือที่เคยถูกสอดประสานจับโดยชายในความฝันคนนั้น ความรู้สึกอุ่นของสัมผัสยังคงติดตรึงอยู่ที่ฝ่ามือของเขาอย่างรู้สึกถึงได้ นั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกสงสัยแม้ในใจจะกลัวว่าสิ่งที่เข้าเห็นในความฝันนั้นจะเป็นอันตรายต่อลิเออร์ก็ตาม

นอนคิดเรื่องความฝันได้ไม่เท่าไหร่เจ้าของกลีบปากบางก็อ้าปากหาวบ่งบอกถึงความง่วงที่กำลังรุกเข้าเล่นงาน เปลือกตาสีมุขหนักอึ้งอีกครั้งก่อนที่ลิเออร์จะตัดสินใจดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาปิดถึงช่วงคอของตัวเองและหลับตาลงเพื่อด่ำดิ่งสู่ห้วงนิทราอีกครั้งของคืนนี้



ในความมืดที่กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง ดวงไฟสีแดงเพลิงกลับปรากฏขึ้นที่ปลายเตียงใหญ่ มันสว่างวาบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เศษประกายไฟสีแดงท้อประกายระยับผสมควันที่คล้ายฝุ่นผงจะฟุ้งกระจายในอากาศเต็มไปหมด

ฝุ่นผงที่ลอยละล่องอยู่ในอากาศในคราแรกเริ่มก่อรูปร่างทีละนิดก่อนที่จะแปรเปลี่ยนจากจากควันมากมายกลายเป็นร่างกายของคล้ายกับมนุษย์ตัวสูงใหญ่

ดวงตาโตกลมแต่กลับคมเฉียบอันมีนัยน์ตาสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลาจ้องมองไปยังเจ้าของร่างบางตัวน้อยบนเตียงกว้างที่หลับสนิทอยู่ก่อนจะเอ่ยพูดออกมาท่ามกลางความเงียบสงัดในตอนนี้

ลิเออร์ถึงเวลาที่เธอต้องรักษาสัญญากับผมแล้ว












เสียงแสงแดดในตอนเช้าคือนาฬิกาปลุกชั้นดีของลิเออร์ คนตัวเล็กที่นอนอยุ่ค่อยๆ ขยับกายของตัวเองน้อยๆ พร้อมกับยกแขนเรียวขึันมาเพื่อปิดบังใบหน้าและคาดทับดวงตาของตัวเองเนื่องจากสายแสงของแดดในตอนเช้ากระทบเข้ากับดวงตาของเขาพอดิบพอดี

ลิเออร์ขยับตัวนอนหันข้างไปยังด้านระเบียงที่มีแสงเล็ดลอดผ่านเข้ามาพร้อมทั้งอากาศเย็นจากลมที่พัดโชยจากการที่ประตูระเบียงถูกเปิดอยู่ เจ้าของร่างบางมองไปยังนอกระเบียงด้วยึวามสงสัยเพราะเห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนยืนอยู่

ลมหายใจของเขาถูกกลั้นไปชั่วขณะก่อนที่เจ้าของร่างเล็กจะเด้งตัวขึ้นจากเตียงกว้างด้วยความตกใจ เขายังคงไม่ละสายตาไปจากแผ่นหลังนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายหันหน้ามา

ตื่นแล้วเหรอ... ลิเออร์
อีกฝ่ายพูดออกมาพร้อมทั้งมองมายังใบหน้าของเขาราวกับว่าเรารู้จักกันมานาน ลิเออร์ขยับตัวขึ้นไปชิดหัวเตียงเมื่ออีกคนเดินมานั่งลงที่ข้างเตียงใกล้กับเขา คนตัวเล็กกว่ามองใบหน้าของคนด้านข้างก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกครั้ง

คุณ คนในฝันเราอย่างนั้นเหรอ
นิกซ์
นิกซ์?”
ครับ นั่นคือชื่อของผม
ลิเออร์มองคนร่างสูงที่นั่งหน้านิ่งเอ่ยบอกชื่อตัวเองด้วยความราบเรียบก่อนจะกระพริบตาปริบเมื่อกำลังเกิดอาการงงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่น้อยเลยทีเดียว

คุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง ไม่สิเข้ามาในบ้านของผมได้ยังไงกัน
เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้าพลางยกหมอนหนุนหัวนิ่มๆ ของตัวเองมากอดเอาไว้แน่นราวกับว่ามันจะช่วยให้ตัวเขานั่นปลอดภัยจากคนตรงหน้าได้

ผมอยู่ที่นี่กับคุณมาตั้งแต่แรกแล้ว
หมายความว่ายังไง คุณเป็นผีเหรอ ฮือ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเข้ามานะ ผมกลัว
คนตัวเล็กขยับตัวขลุกขลักพลางหดหน้าหดคอหนีจากการถูกนิกซ์มองจนคนตัวใหญ่กว่าขยับลุกขึ้นหยัดยืนข้างเตียงแทน

ผมไม่ใช่ผีคุณไม่ต้องกลัวอะไร
ไม่ใช่ผีแล้วคุณเป็นอะไรเล่า
เขาเอ่ยถามสวนอีกคนออกไปเสียงสั่นพลางโผล่ใบหน้าจากหมอนขึ้นมาแค่เพียงบริเวณตาและมองไปยังนิกซ์ที่ยืนจ้องมาทางเขาด้วยสายตานิ่งสงบเช่นเดิมก่อนที่อีกคนจะเอ่ยพูดออกมาช้าๆ ให้เขาได้ยินอย่างชัดเจน

ไม่ใช่ผี
“....”
แต่เป็นซาตาน
นั่นเป็นครั้งแรกที่ลิเออร์กับนิกซ์ได้พบกันท่ามกลางห้องนอนสีครีมกว้าง มีสายลม และแสงแดดในยามเช้าเป็นประจักษ์พยานว่าซาตานปรากฏตัวต่อหน้าเขาตามที่เคยถูกบอกเล่าจากปากคุณปู่คุณย่าเมื่อยังเด็ก


//


ฟู่ว 
เสียงลมหายใจดังออกมาจากปากเล็กเมื่อลิเออร์เป่าปากของตัวเองช้าๆ ดวงตาเรียวรีทอดมองไปยังต้นดอกกุหลาบที่ตัวเขาลงมือปลูกเองอย่างชื่นชมก่อนจะยกข้อมือขึ้นเช็ดหน้าผากมนและข้างแก้มนุ่มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะแสงแดดในยามบ่ายกำลังเข้าเล่นงาน

ไปไหนของเขานะ
ลิเออร์เอ่ยพึมพัมออกมาเขาๆ เมื่อรับรู้ได้ว่านิกซ์ไม่ได้อยู่ด้านในบ้านในตอนนี้ สายตาเองก็สอดส่องแต่ก็รู้ว่ายังไงตัวเองก็น่าจะมองนิกซ์ไม่เห็นหากอีกคนไม่ยอมให้เขาเห็น

เวลาล่วงเลยมาถึง 5 เดือนหลังจากวันที่ลิเออร์เจอนิกซ์ครั้งแรกในห้องนอน คนตัวเล็กยอมรับเลยว่าช่วงแรกเขาเขากลัวนิกซ์มากๆ ถึงขั้นอยากย้ายกลับเข้าบ้านในเมืองใหญ่ แต่นิกซ์ก็รู้ทันเขาตลอดและไม่ยอมปล่อยเขาให้หนีไปง่ายๆ 

ลิเออร์กลัวว่านิกซ์จะทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำในวันนั้นที่เขาคิดหนี แต่นิกซ์ก็ให้เหตุผลว่านิกซ์ไม่สามารถทำร้ายเขาได้เพราะเขาเป็นเจ้าของสัญญาซาตานที่ทำเอาไว้ตั้งแต่ยังเด็ก

ยิ่งกว่าอาการตกใจคืองงงวยในคำตอบของนิกซ์เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองไปทำสัญญาแสนอันตรายนี้ได้อย่างไรในสมัยเด็ก และเหมือนว่านิกซ์อ่านใจของเขาออกอีกฝ่ายจึงให้คำตอบว่าปู่กับย่าของลิเออร์เป็นคนจับเขาทำสัญญาซาตานกับนิกซ์ไว้ตั้งแต่ตอนเด็ก

คำพูดนั้นทำให้เขายอมหยุดฟังนิกซ์ทันที อีกฝ่ายพูดต่อในตอนที่เห็นเขาเงียบลง นิกซ์บอกว่าสาเหตุที่คุณปู่คุณย่าของเขาจับเขาทำสัญญาซาตานนั้นก็เพื่อให้นิกซ์ค่อยเฝ้าดูแลเขาตราบชั่วอายุขัยของลิเออร์ 

ทั้งตระกูลของลิเออร์มีการสืบทอดการทำสัญญากับซาตานมาทุกรุ่นเพื่อมอบวิญญาณให้กับซาตานทุกหนึ่งร้อยปีเนื่องจากต้นตระกูลของลิเออร์ได้ไปขโมยศิลาวิญญาณของซาตานมาและใช้พลังของศิลาในการยืดอายุขัยให้คนในตระกูลและชุบชีวิตคนตายขึ้นมาซึ่งผิดกฎของนรกที่ฝ่ายซาตานไม่ต้องการเข้าไปยุ่งทำให้ยมทูตจากนรกและซาตานเกิดปัญหากันที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการก่อสงครามแห่งเพลิงกัลป์ขึ้น

นั่นจึงทำให้ซาตานต้องตามมาทวงคืนพลังจากศิลาวิญญาณโดยการทำสัญญาซาตานกับคนในตระกูลจนกว่าจะได้อายุขัยของดวงวิญญาณรวมกันครบสองพันห้าร้อยปีตามที่ต้นตระกูลได้ใช้มันจากศิลาวิญญาณและนำเศษเสี้ยวบางส่วนไปส่งให้กับยมทูต

นิกซ์ยังบอกอีกว่าสาเหตุที่คนในตระกูลบางคนของลิเออร์ไม่ได้ถูกจับทำสัญญาซาตานก็เพราะว่าซาตานจะมาทวงวิญญาณและทำสัญญาทุกหนึ่งร้อยปีแล้วในหนึ่งร้อยปีนี้คนที่ต้องมอบวิญญาณให้ซาตานก็คือปู่ของลิเออร์และคนที่ต้องทำสัญญาต่อก็คือลิเออร์เพราะอายุของปู่ลิเออร์คือหนึ่งร้อยปีและลิเออร์เกิดในครั้งที่นับทำสัญญาใหม่พอดีตามที่คนในตระกูลคาดการไว้

เฮ้อ
ยิ่งคนตัวเล็กคิดถึงเรื่องนั้นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสับสนไปหมด แต่ก็ทำได้เพียงแค่โยนความรู้สึกพวกนั้นทิ้งจากใจไปเพราะยังไงมันก็แก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้อีกนอกจากทางนี้ทางเดียว จะบอกว่ารู้สึกโกรธทางต้นตระกูลของตัวเองหน่อยๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อีกเช่นกันจึงเลือกที่จะไม่ติดใจกับอะไรเลยเสียยังดีกว่า

ทุกวันนี้แค่ค่อยรับมือกับนิกซ์ที่ชอบโผล่ๆ หายๆ ลิเออร์ก็รู้สึกลำบากมากพออยู่แล้วไหนจะอาการมือไวใจเร็วของนิกซ์ที่ชอบเอะอะจับเอะอะกอดเขาอีก จนเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านิกซ์ใช่ซาตานจริงมั้ย มันช่างแตกต่างกับการปรากฏตัวเมื่อเดือนแรกมากโขทีเดียวเชียว

นิกซ์ นิกซ์ หายไปไหนของเขากันแน่นะ
เขาส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายเป็นครั้งที่สองหลังจากเดินเข้ามาในห้องนอนเพื่อที่จะไปอาบน้ำเนื่องจากเหงื่อกาฬที่ไหลออกมามากมายจนเสื้อเปียกชื้นเพราะไปปลูกต้นกุหลาบถึงสามต้นท่ามกลางแดดช่วงเที่ยงถึงบ่าย

คนตัวเล็กไม่สนใจที่จะเรียกนิกซ์ต่ออีกรอบ เขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็วและหยิบเอาเสื่อคลุมมาใส่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำมาก่อนจะทำการเปิดน้ำใส่อ่างใส่สบู่ลงไปและทำให้มันเกิดฟองแบบที่เขาชอบแช่เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย

ขาเรียวก้าวลงอ่างกว้างด้วยขาทีละข้างก่อนที่เจ้าของร่างเพรียวอันเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์คลุมกายจะค่อยๆ หย่อนตัวเองลงในของเหลวที่มีฟองปกปิดคลุมผิวน้ำอยู่

ศีรษะกลมๆ เอนพิงกับขอบอ่างที่มีส่วนรองรับเอาไว้ก่อนที่จะค่อยๆ หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากอากาศร้อนที่เคยเข้าเล่นงานมาก่อนหน้านี้ 

ผ่านไปสักพักคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มเมื่อกลิ่นของลาเวนเดอร์ลอยมาแตะจมูกรั้นขอบตัวเอง เขาจำได้ดีว่ามันเป็นกลิ่นของเทียนหอมที่ตั้งเอาไว้ในห้องน้ำและเขารู้สึกว่านิกซ์อยู่ในห้องน้ำนี้เช่นเดียวกัน

นิกซ์?”
ครับ
เปลือกตาสีมุขเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อลิเออร์รู้สึกได้ว่ามีคนมานั่งลงที่ขอบอ่างใกล้กับศรีษะของตัวเองอีกทั้งเสียงทุ้มนุ่มของนิกซ์ยังดังก้องอยู่ใกล้ๆเขาอีกด้วยเช่นกัน

เข้ามาทำไมฉันอาบน้ำอยู่นะ
ลิเออร์พูดออกมาเสียงแผ่วเมื่อสบตากับนิกซ์ที่ก้มหน้ามองเขาอยู่ใกล้ๆ คนตัวเล็กรู้สึกหน้าร้อนผ่าวไม่น้อยที่นิกซ์มานั่งจ้องตัวเองแบบนี้อีกทั้งเขายังโป๊เปลือยอยู่ใต้น้ำด้วยนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกเก้อเขินขึ้นมาเสียดื้อๆ ซะอย่างนั้น

อย่าโผล่มาแบบนี้จะได้มั้ยนิกซ์ ออกไปเลยนะ
เขาเอ่ยบอกอีกฝ่ายพลางสไลด์ตัวลงกับอ่างอีกเล็กน้อยเพื่อให้ฟองสบู่มากมายช่วยปิดบังเรือนร่างของตัวเองเหลือเพียงแค่ส่วนลำคอขึ้นไปเนื่องจากจะหลบสายตาวาววับของนิกซ์ที่มองอยู่ เพราะสายตาแบบนั้นของอีกคนทำให้หัวใจของลิเออร์เต้นระรัวไปหมด

ก็คุณเรียกหาผมไม่ใช่หรือยังไงกันครับ
ก่อนหน้านี้นายหายไปนี่
“....”
แต่ตอนนี้นายออกไปได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำ
ให้ผมช่วยอาบมั้ยครับ
ลิเออร์มองสบตากับนิกซ์พลางกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองเพราะหัวใจเจ้ากรรมที่เต้นระรัวเสียจนเจ้าของแทบจะกลัวมันหลุดออกมา นิกซ์เอ่ยพูดประโยคนั้นด้วยใบหน้านิ่งสงบแต่ดวงตาสีแดงเพลิงนั้นกลับฉายแววความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเด่นชัดเสียจนเขารู้สึกวูบไหวไม่น้อย

ไม่ต้องเลย ออกไปได้แล้วนิกซ์
ครับ
อีกฝ่ายเอ่ยตกปากรับคำก่อนจะลุกขึ้นหยัดยืนแล้วหายออกจากห้องน้ำไปทันทีต่อหน้าต่อตาลิเออร์ แต่เขาก็ชินเสียแล้วกับการโผล่มาและหายไปในลักษณะแบบนั้น


//


ก้าวเข้าสู่เดือนที่เก้าของการที่เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับซาตานที่รอคอยวิญญาณของตัวเอง จะบอกว่าเขาปรับตัวได้ดีมันก็คงจะเป็นแบบนั้นและนิกซ์ทำให้เขาเคยชินกับการมีอีกฝ่ายค่อยช่วยนู่นช่วยนี่ตลอดทุกครั้งไม่ว่าจะทำกิจวัตรประวันหรืออะไรก็แล้วแต่ยกเว้นอาบน้ำ 

นิกซ์ปลุกเขาในตอนเช้าเวลาเดิมทุกครั้ง ช่วยทำอาหารของมนุษย์ทั้งๆ ที่นิกซ์ไม่ต้องทานอะไรเลยด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายก็ทำให้เขาในทุกมื้ออาหารและในทุกๆ วัน ช่วยเตือนเวลาเขานั่งทำงานเพลิน และช่วยส่งเขาเข้านอนในทุกๆ คืน

อีกฝ่ายทำแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และนอกจากการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นกับเขาแล้วยังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับนิกซ์ด้วยเช่นกัน จากที่นิกซ์ไม่ค่อยยิ้มให้เขากลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายมีการแสดงความรู้สึกทางสีหน้ามากขึ้น ไม่ได้ดูหยาบกร้านไร้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อน และจากที่นิกซ์มีแค่มือไวจับกับกอดเขาแต่ทุกวันนี้อีกฝ่ายแทบจะไม่ปล่อยให้เขาเดินเองเลยด้วยซ้ำยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีกในเรื่องแบบนี้

นิกซ์ ขอขยับตัวหน่อยสิ ฉันจะนอนหันหน้าไปทางนาย
เขาเอ่ยพูดออกมาเบาๆ พลางก้มมองท่อนแขนแกร่งของนิกซ์ที่สอดรัดกอดเอวเข้าเอาไว้อยู่ นิกซ์ยอมคลายอ้อมกอดที่เอวให้หลวมขึ้นลิเออร์จึงขยับตัวหันไปนอนเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่กำลังนอนมองเขาอยู่

ลิเออร์
หือ
คนตัวเล็กในอ้อมกอดอุ่นเอ่ยตอบรับด้วยเสียงในลำคอเบาๆ เมื่อตัวเองกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความอบอุ่นจากตัวของนิกซ์ที่แผ่ซ่านล้อมรอบตัวเขาไปหมด

ผมจูบนะครับ
นิกซ์พูดบอกออกมาพลางก้มมองใบหน้าของเขา ตั้งแต่เดือนที่เจ็ดที่เราได้แลกเปลี่ยนรสจูบกันเพราะความผิดพลาดจากการสบตาและใกล้ชิดความเกินเลยจึงก่อตัวขึ้นช้าๆ จากสัมผัสอันบางเบา ทั้งเขาและนิกซ์ต่างก็พลาดพลั้งหลายครั้งคราจนกลายเป็นว่าเราทั้งคู่เสพติดมันโดยไม่รู้ตัว

ลิเออร์ไม่ได้ตอบกลับไปแต่เลือกที่จะสบตากับนิกซ์แทนการให้คำตอบ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของรสจูบหวานฉ่ำครั้งที่สามของวัน ริมฝีปากหนาขยับเม้มและดูดดึงกลีบปากบางช้าๆ ก่อนที่จะส่งเรียวลิ้นเข้าไปด้านในกวาดต้อนเอาความหอมหวานแสนน่าลุ่มหลงของลิเออร์อย่างไม่รู้จักพอ

มือร้อนๆ ของนิกซ์วางลงบนสะโพกของเขาก่อนที่จะออกแรงบีบมันเบาๆ และเค้นคลึงมันช้าๆ ซึ่งการกระทำแบบนั้นช่างชวนให้หัวใจของเขากระตุกไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว

ลิเออร์วางมือเรียวลงบนแก้มของนิกซ์ก่อนที่กดริมฝีปากและลำตัวเข้าหาอีกฝ่ายจนสัดส่วนร่างกายและใบหน้าของเราทั้งคู่แนบชิดสนิทกันเกือบทุกส่วน แขนขากลัดเกยกันจนตัวแทบพันกันเป็นเกลียวบนผืนเตียงกว้าง

ผ้าห่มสีขาวสะอาดถูกเมินเฉยจากเราทั้งคู่จนมันไหลตกไปยังพื้นห้อง เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นแทนความเงียบก่อนหน้าปะปนกับเสียงหายใจเข้าออกของเราทั้งสองที่ก้องไปทั่ว

จู่ๆ แรงอารมณ์ที่มากมายกลับเทกองเข้ามาในห้วงความรู้สึกของลิเออร์ ทั้งๆ ที่มันเป็นจูบที่เราทั้งคู่เคยทำกันมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้วด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เขาแทบห้ามตัวเองไม่ได้เมื่อเขากำลังรู้สึกว่าตัวเองต้องการสัมผัสจากนิกซ์มากกว่านี้ มากกว่าการจูบที่อีกฝ่ายกำลังมอบให้

Nyx Part

ผมมองคนตัวเล็กในอ้อมกอดที่กำลังนอนหนุนแขนของผมอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย มันเป็นความรู้สึกที่มากมายจนผมเกิดความประหลาดใจกับตัวเองไม่น้อย 

ซาตานเป็นสิ่งที่ทุกคนหวาดกลัวและหวาดหวั่นเพราะซาตานเป็นสัญลักษณ์ของความลุ่มหลง มัวเมา และการพรากวิญญาณ แต่กับตระกูลของลิเออร์พวกเขาต้องพบเจอกับสิ่งนี้ทุกๆ หนึ่งร้อยปีของการมีชีวิตอยู่นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องทำใจและปรับตัวกับการที่ต้องพบเจอพวกเรา

ความชั่วร้าย ราคะ โทสะ พวกเราจะไม่ก่อมันให้เกิดขึ้นหรือยุยงให้เกิดกับคนในตระกูลของลิเออร์ รวมถึงกฎหนึ่งวิญญาณหนึ่งความต้องการที่เรามักจะทำสัญญากับมนุษย์คนอื่นๆ ทั่วไปเพื่อกลืนกินวิญญาณของพวกเขาจากการแลกกับสิ่งที่พวกต้องการ พวกเราก็จะไม่ทำมันกับตระกูลของลิเออร์ด้วยเช่นกัน

เพราะคนในตระกูลของลิเออร์ต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ครบอายุขัยหนึ่งร้อยปีและหลังจากครบหนึ่งร้อยปีบริบูรณ์เราจะกักเก็บดวงวิญญาณของพวกเขาเอาไว้ในศิลาวิญญาณที่พวกเขาเคยขโมยมันมาจากโลกของซาตานหรือที่เรียกว่าโลกของคนตายและได้ใช้พลังวิญญาณของมันไปถึงสองพันห้าร้อยปี

สาเหตุนั้นทำให้โลกของคนตายและปรโลกอย่างนรกเกิดความขัดแย้งกัน ยมทูตและซาตานผู้ที่ไม่ถูกกันมาก่อนการอยู่แล้วจึงใช้ข้ออ้างนี้ในการก่อสงครามเพื่อทำลายอีกฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วมันก็จบด้วยการที่เทพเจ้าแห่งนรกอย่างเฮดีสและปรปักษ์ของพระเจ้าอย่างลูซิเฟอร์ตกลงกันได้ในที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายซาตานเองต้องเป็นคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากความหละหลวมของตัวเอง ซาตานตระกูลคาเรย์ของนิกซ์ที่เป็นผู้ดูแลศิลาวิญญาณจึงถูกส่งมาทำสัญญากับตระกูลเดย์ลาโน่ของลิเออร์เพื่อรวบรวมอายุขัยของคนในตระกูลจนกว่าจะครบสองพันห้าร้อยปี

ลิเออร์ที่ตอนนี้อายุยี่สิบห้าปีบริบูรณ์เป็นคนสุดท้ายของตระกูลเดย์ลาโน่ที่จะถูกกักเก็บวิญญาณในอายุขัยหนึ่งร้อยปี และนิกซ์คือซาตานตนสุดท้ายของตระกูลคาเรย์ที่จะต้องมาทำสัญญาซาตานและใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อดูแลดวงวิญญาณของคนในตระกูลเดย์ลาโน่ให้อยู่ถึงหนึ่งร้อยปีก่อนจะกักเก็บมันไว้

แต่ในตอนนี้มีสิ่งหนึ่งรบกวนจิตใจเขาไม่หยุดหย่อนก็คือเจ้าของวิญญาณตัวเล็กในอ้อมกอดเขา นิกซ์ยอมรับได้ในทันทีว่าสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในห้วงความรู้สึกของตัวเองกำลังก่อเกิดมากขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนจนมันแทบเอ่อล้นออกมา 

เขาตกหลุมรักเจ้าของดวงวิญญาณตัวเองน้อยที่ตัวเองเฝ้าดูแลมาตลอด ลิเออร์อาจจะจำไม่ได้ว่าเขาเคยมาปรากฏตัวต่อหน้าอีกคนแล้วเมื่อตอนที่คนตัวเล็กอายุสิบสองปีบริบูรณ์ เขาค่อยมาเฝ้าดูแลอีกคนอย่างใกล้ชิดอยู่ช่วงหนึ่งและหลังจากที่ลิเออร์อายุครบสิบสามปีเขาจึงกลับมาล่องหนหายตัวเหมือนเดิมจนกระทั่งตอนนี้ที่เขามาปรากฏตัวอีกครั้ง

นิกซ์ ขอขยับตัวหน่อยสิ ฉันจะนอนหันหน้าไปทางนาย
เขาคลายอ้อมกอดที่เอวของลิเออร์ให้หลวมขึ้นก่อนที่คนตัวเล็กจะเริ่มขยับร่างหยุกยิกแล้วหันพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับเขา นิกซ์ก้มมองใบหน้านวลที่กำลังซุกอกของเขาอยู่ก่อนที่จะตัดสินใจเลื่อนตัวลงมาในระดับเดียวกับลิเออร์

จมูกของเราทั้งคู่เฉียดสัมผัสกันเล็กน้อยเพราะความใกล้ชิด เขามองสบตากับอีกคนที่กำลังทอดสายตามองเขาอยู่ก่อนหน้าก่อนที่จะเอ่ยพูด

ลิเออร์
หือ
ผมจูบนะครับ
ไร้เสียงตอบรับจากอีกคนแต่แววตาที่สื่อส่งมาให้นิกซ์นั่นทำให้เขาขยับเข้าไปใกล้กับคนตัวเล็กมากขึ้น ริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบเข้าหากันก่อนที่เขาจะเริ่มขยับบดเบียดจูบกับกลีบปากนิ่มของลิเออร์ จากความเงียบที่ลอยปกคลุมกำลังถูกแทนที่ด้วยเสียงเฉอะแฉะจากการกระทำของเราทั้งคู่

เขากวาดต้อนและกอบโกยเอาความหอมหวานจากลิเออร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทุกครั้งที่เขาสัมผัสอีกคน นิกซ์กลับต้องการอีกฝ่ายมากขึ้นในทุกๆ ครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เขาต้องการสัมผัสจากลิเออร์มากกว่านี้มากกว่าจูบที่เรากำลังทำมันอยู่

ร่างกายของเราทั้งคู่บดเบียดเข้าหากันมากขึ้นเมื่อแรงอารมณ์มากมายกำลังก่อตัวและต้องการปะทุอยู่ภายใน ร่างกายของนิกซ์ร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูกยามที่วาดมือไปสัมผัสสะโพกกลมของอีกคนทั้งยังออกแรงขยำมันเบาๆ เรียกเสียงครางในลำคอจากลิเออร์ได้อย่างดี

นิกซ์ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เขาเป็นเพียงแค่ซาตานชั่วร้ายที่มนุษย์หวาดกลัว เขามีไฟแห่งโทสะ ราคะ ความชั่วร้าย และวิญญาณเป็นแรงขับเคลื่อนในการมีตัวตน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดว่าส่วนพวกนั้นเป็นตัวสร้างบรรยากาศในตอนนี้ขึ้นมา เพราะนิกซ์คิดว่าสิ่งที่กำลังสร้างสุมอารมณ์ให้เขาคือความรู้สึกที่เรียกว่ารักและเขาเลือกที่จะไม่ปฏิเสธมันออกไปจากห้วงอารมณ์

            น นิกซ์
อีกคนเม้มริมฝีปากเจ่อแดงของตัวเองเข้าหากันเมื่อเขาผลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้ให้อยู่ใต้อาณัติ เขามองสบเข้าไปในดวงตาใสของลิเออร์ก่อนที่จะก้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายและเอ่ยพูดออกมาเบาๆ แต่อีกคนก็คงได้ยินมันอย่างชัดเจน

            ผมรักคุณลิเออร์…”
            “…”
            คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ทั้งหมดที่ผมรู้สึกมันคือของจริงทั้งหมด
ภายใต้ดวงตากลมใสกำลังสั่นระริกเขาไม่อาจรับรู้ได้ว่าตอนนี้ลิเออร์กำลังรู้สึกอย่างไรแม้ตัวเองจะเป็นปีศาจแต่ก็มิอาจล่วงล้ำเข้าไปในห้วงความรู้สึกของมนุษย์ได้เพราะความรู้สึกของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะกำบังให้คนทุกคนบนโลก เขาจึงต้องการรอรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดออกมาเอง

            ถ้าทั้งหมดที่นายรู้สึกเป็นของจริง
            “…”
            ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกับนาย
นิกซ์เผยยิ้มบางออกมาเขากำลังรู้สึกดีใจและหัวใจเต้นระรัว เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะกี่ร้อยปีที่เขาได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขากำลังมีความรู้สึกที่เรียกว่าดีใจอยู่ในห้วงความอารมณ์



Nyx part end.



//



อาภรณ์บนร่างกายของลิเออร์ถูกปลดเปลื้องออกจากร่างกายไปตอนไหนคนตัวเล็กก็ไม่อาจรับรู้ได้ เพราะในตอนนี้สมองของเขาขาวโพลนไปหมด ยามที่ร่างกายกำลังถูกรุกล้ำด้วยริมฝีปากร้อนของนิกซ์ที่กำลังหยอกล้อกับผิวกายขาวเนียนของเขา

อีกฝ่ายสร้างรอยสีแดงช้ำเอาไว้ยามที่ลากไล้ริมฝีปากผ่านทั่วร่างกายของเขา ไอร้อนและความระอุเดือดปะทุจนร่างกายของลิเออร์ชื้นเหงื่อ ยิ่งนิกซ์สัมผัสและวาดเฟ้นมือไปทั่วกายบางของเขามากเท่าไหร่ลิเออร์ยิ่งรู้สึกเสียวซ่านมากกว่าเดิม

ราวกับมีผีเสื้อนับพันตัวบินวนละล่องในท้องของเขาไม่หยุดหย่อนยามที่เราขยับกลับมาประกบริมฝีปากเข้าหากันอีกครั้ง มันเป็นจูบที่ดูดดื่มและกระหายอยากไม่น้อยยิ่งยามที่นิกซ์ไล่ลิ้นเลียริมฝีปากของเขาช้าๆ ก่อนจะสอดเรียวลิ้นชื้นเข้ามากวาดต้อนเอาความหอมหวานไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักพอ

อีกฝ่ายแทรกตัวเข้ามาตรงระหว่างขาของเขาก่อนที่จะใช้ลำแขนแกร่งเท้าค้ำยันกับเตียงเพื่อพยุงตัวคร่อมลิเออร์เอาไว้ ไม่นานนักร่างกายกำยำของนิกซ์ปรากฏขึ้นตรงหน้าของลิเออร์เมื่ออีกฝ่ายทำให้เสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองหายไปได้ในพริบตา เนื้อตัวของเราทั้งคู่เปลือยเปล่าท่ามกลางความมืดสลัวแต่เราทั้งคู่ต่างก็เห็นทุกความเคลื่อนไหวและร่างกายของอีกฝ่ายได้ดีดังเดิม

ความร้อนระอุจากแรงอารมณ์จากร่างกายของนิกซ์แผ่ซ่านมาถึงตัวเขายามที่อีกฝ่ายกำลังแนบตัวลงมาหาเขา ผิวเนื้อของเราสัมผัสกันเล็กน้อยยามที่เรากำลังขยับตัวเข้าหากัน หัวใจของนิกซ์เต้นระรัวเมื่อส่วนล่างของเรากำลังเสียดสีกันช้าๆ

            อ อือ
เขาส่งเสียงครางในลำคอเมื่อนิกซ์ขยับตัวลุกขึ้นมือข้างหนึ่งของเราสอดประสานกันเอาไว้ ส่วนมือข้างที่ว่างของนิกซ์กำลังจับเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของเขาพลางเริ่มขยับมันจนลิเออร์จำต้องหดเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียววูบ มือร้อนของนิกซ์กำลังปรนเปรอให้เขาดำดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาเป็นสายเปรอะเปื้อนมือใหญ่และหน้าท้องแบนราบของตัวเองพร้อมทั้งหอบหายใจน้อยๆ จากการกระทำของนิกซ์เมื่อครู่

นิกซ์ยกยิ้มที่มุมปากและจ้องมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาพราวระยับ ลิเออร์ไม่เคยเห็นนิกซ์ในรูปแบบนี้เลยอีกฝ่ายแสดงออกทางสีหน้าด้วยความเจ้าเล่ห์และหื่นกระหายเสียมากเสียจนเขาต้องหลบสายตาหนีไปมองมือของตัวเองข้างหนึ่งที่กำผ้าปูที่นอนเอาไว้

            ถึงคราวผมแล้วนะ
            อือ
เขาตอบรับเบาๆ และหันกลับมาเผชิญหน้ากับนิกซ์อีกครั้งโดยที่อีกฝ่ายเชยปลายคางให้เขาหันหน้ามาก่อนที่จะป้อนจูบให้เขาอีกครั้ง นิกซ์ถอนมือจากการจับประสานของเราออกก่อนที่จะจับแขนทั้งสองข้างของเขาให้คล้องคออีกฝ่ายเอาไว้

เจ้าของอาณัติกดตัวเข้าหาเขามากขึ้นอีกส่วนมือก็กำลังทำหน้าที่ขยับจับตัวตนของตัวเองเพื่อเตรียมการ ก่อนที่จะไล้ปลายนิ้วไปตามขาเรียวของเขาแล้วมาหยุดอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของเขา นิกซ์ป้อนจูบหนักขึ้นสลับกับสูดดมกลิ่นกายของเขาจากพวงแก้มและไล่จมูกซุกไซร้ซอกคอของเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปลายนิ้วที่กำลังสอดใส่เข้ามาในตัวของลิเออร์ทีละนิด

            อะ นิกซ์
ก้านนิ้วยาวของอีกคนกำลังขยับอย่างเชื่องช้าอยู่ด้านในช่องทางของเขา ปลายนิ้วอุ่นไล้แตะผนังอ่อนนุ่มกดย้ำไปตามทางก่อนที่จะเริ่มสอดนิ้วที่สองเข้าไปอีกครั้ง กดย้ำสัมผัสลงน้ำหนักมากกว่าเดิมและเพิ่มจังหวะให้ถี่มากขึ้น

            อะ อา
นิกซ์กดย้ำเข้าที่จุดกระสันภายในร่างกายของเขาจนลิเออร์ตัวเกร็งไม่น้อยมันทั้งเสียวซ่านและวูบวาบในช่องท้องไม่น้อยจนรู้สึกว่าตัวเองขยับช่องด้านรัดนิ้วของนิกซ์มากขึ้น อีกฝ่ายส่งเสียงคำรามในลำคอก่อนที่จะค่อยๆ ถอนก้านนิ้วยาวออกมาจนหมด

เจ้าของอาณัติสบตากับเขาหลังจากที่อีกฝ่ายผละใบหน้าออกมาจากซอกคอขาวของลิเออร์แล้ว นิกซ์จ้องมองมาที่ดวงตาฉ่ำวาวของเขาด้วยสายตาสื่อความหมายก่อนที่จะเอ่ยพูดบอกออกมาเบาๆ ที่ข้างใบหูนิ่มของลิเออร์ที่กำลังรอรับฟัง

            ครั้งนี้มันอาจจะเจ็บกว่าเมื่อกี้ ถ้าอยากให้หยุดก็บอกกันเลยนะครับ
            “….”
            ผมอยากให้เรามีความสุขด้วยกันมากกว่าทำคุณเจ็บ
เขากัดริมฝีปากเจ่อแดงของตัวเองด้วยฟันซี่คมก่อนที่จะเหลือบสายตามองต่ำไปมองตัวตนของนิกซ์ที่กำลังผงาดอยู่กลางลำตัวของอีกคน เขาคิดได้แค่ว่าถ้าอีกฝ่ายสอดใส่เข้ามาตัวเขาอาจจะฉีกออกเป็นสองส่วนเลยก็ได้ด้วยซ้ำ

ลิเออร์พยักหน้ารับอีกคนช้าๆ เมื่อนิกซ์ยังคงรอคำตอบจากเขา มือใหญ่อันอบอุ่นส่งมาที่ข้างแก้มของเขาก่อนที่จะลูบไล้แก้มแดงระเรื่อของเขาเบาๆ คนตัวใหญ่กว่าเริ่มขยับอีกครั้งเมื่อกำลังสอดใส่ตัวตนของตัวเองเข้ามาที่ช่องทางปิดสนิทของเขา

ความเจ็บคืบคลานเข้ามาในความรู้สึกของเขาลิเออร์ทันทีที่นิกซ์กำลังขยับดันตัวตนข้ามาทีละนิด ใบหน้านวลที่ขึ้นสีแดงจากแรงอารมณ์เริ่มเหยเกเล็กน้อยก่อนที่นิกซ์จะก้มลงมาที่ซอกคอของเขาและไล่ริมฝีปากกดจูบอย่างเนิบนาบเพื่อเรียกความสนใจจากส่วนล่างที่กำลังดุนดันเข้าไปในตัวของคนตัวเล็กกว่า

ลิเออร์กัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกเสียวซ่านและเจ็บน้อยๆ แต่เขาก็ค่อยๆ ผ่อนคลายตัวเองเพื่อให้ตัวตนของนิกซ์สอดใส่เข้ามาได้จนสุดลำความยาว คนตัวเล็กกว่าเองก็รับรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็อึดอัดไม่น้อยเช่นเดียวกันที่เข้าได้ไม่หมดเสียทีแต่สุดท้ายเพราะอารมณ์ของเราทั้งคู่ที่ต่างแลกเปลี่ยนปรนเปรอกันตัวตนของนิกซ์จึงเข้ามาในตัวเขาได้จนสุด

ร่างกายของเราทั้งคู่สอดประสานกันรวมทั้งความรู้สึกที่รอยคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ลิเออร์รั้งแขนของตัวเองให้ใบหน้าของนิกซ์กดต่ำลงมาก่อนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มบทจูบอีกครั้ง ส่วนล่างของนิกซ์เริ่มขยับเมื่อรับรู้ว่าอีกคนผ่อนคลายได้มากขึ้น

จากความเจ็บในคราแรกกำลังแปรเปลี่ยนเป็นพันธนาการความเสียวซ่านที่ไหลล้นเข้ามาในห้วงความรู้สึกของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ตัวของลิเออร์ขยับไปตามแรงกระทำของนิกซ์ที่กำลังถี่มากขึ้น ผ้าปูที่นอนที่เรียบตึงในตอนแรกยับยู่ไปหมดเพราะบทรักของเรา

            น นิกซ์ อือ
            อา
ห้วงอารมณ์ของเราทั้งคู่ปะทุมากขึ้นในยามที่นิกซ์กำลังสอดใส่เข้ามาในตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและลิเออร์เองก็ตอบรับร่างกายของอีกคนอย่างแนบแน่นเสียจนนิกซ์แทบคลั่ง อารมณ์มากมายพุ่งสูงเสียจนติดเพดานก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดออกมาจนหยดสุดท้ายภายในร่างกายของลิเออร์และเลอะล้นออกมา

เราทั้งคู่หอบหายใจออกมาเหงื่อกาฬเม็ดใสไหลซึมจากใบหน้า ลำตัว ไรผมจนชื้นไปหมดอากาศในห้องที่เย็นสบายอยู่ก่อนหน้านี้กลับร้อนเสียจนแทบบ้า ตัวตนของนิกซ์ยังคงสอดใส่อยู่ในตัวของลิเออร์และนั่นทำให้ลิเออร์รู้ว่าความร้อนระอุภายในกำลังจะก่อการปะทุอีกครั้ง

            ผมรักคุณ
            ฉันก็รักนาย   
ค่ำคืนที่มืดสนิทกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ รวมทั้งทั้งสองร่างที่กำลังเกี่ยวพันกอดรัดกันอยู่บนผืนเตียงกว้างด้วยเช่นกัน ความโหยหาและความต้องการของเราทั้งคู่สิ้นสุดลงในตอนใกล้รุ่งสางแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมานอนกอดรัดจนถึงช่วงสายของวันเพราะความอ่อนเพลียจากการมอบความรักให้กันจากเมื่อยามราตรี



//



สองเท้าเล็กเดินไปตามบันไดของบ้านด้วยความเคยชินก่อนจะเดินขึ้นมายังชั้นสองที่เงียบสงบ ลิเออร์ไม่ได้เดินไปที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ทางปีกฝั่งซ้ายแต่อย่างใดแต่คนตัวเล็กกลับเดินไปยังปีกฝั่งขวาแทนเพราะฝั่งนี้มีห้องสมุดขนาดกว้างอยู่และนั่นก็เป็นที่ที่นิกซ์ชอบมาหมกตัวอยู่

ประตูบ้านไม้ตรงหน้าถูกเปิดออกด้วยมือเรียวก่อนที่เขาจะเคลื่อนย้ายตัวเองเข้ามาด้านในที่สะอาดสะอ้านเหมือนใหม่ไรฝุ่นผงเกาะแต่อย่างใด เจ้าของดวงตาเรียวกวาดมองไปรอบช่องชั้นวางหนังสือก่อนจะเดินไปที่โต๊ะติดหน้าต่างที่มีหนังสือเล่มหนึ่งว่างอยู่

เขารู้ได้ทันทีเมื่อเดินเข้าไปใกล้ว่าตรงนี้นิกซ์เคยนั่งอยู่ก่อนแต่ก็ต้องทอดสายตามองหาอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ลิเออร์เองก็ไม่ได้เดินไปไหนก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้เพื่อรออีกฝ่าย

 จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักลิเออร์ก็รู้สึกถึงการมาของนิกซ์คนตัวเล็กขยับใบหน้ามองซาคตานตัวสูงที่จู่ๆก็ปรากฏตัวนั่งอยู่เก้าอี้ข้างกัน

ไปไหนมา
ไปหาหนังสือจากชั้นสองมาน่ะครับ
อ่านให้ฟังบ้างสิ
ครับ
นิกซ์เอ่ยพูดตอบรับออกมาพร้อมทั้งเผยยิ้มบางๆ ให้เขาได้เห็นก่อนที่เสียงของอีกฝ่ายจะเริ่มดังขึ้น ลิเออร์นอนมองใบหน้าของคนที่กำลังพูดเล่าสิ่งที่อ่านอยู่ด้วยความตั้งใจพลางคิดในใจว่าถ้าหากตัวเองไม่ได้เจอนิกซ์จะเป็นอย่างไร

เขาอาจจะเป็นคนเหงาๆ ในบ้านหลังใหญ่นี่คนเดียว แต่ตอนนี้ลิเออร์กำลังรู้สึกขอบคุณการมีอยู่ของนิกซ์มากๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งอีกฝ่ายจะหื่นกามมากไปผิดลักษณะของซาตานผู้หน้ากลัวน่าเกรงขามไปเสียหมดก็ตาม

นิกซ์
ครับ
นิกซ์หันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่อย่างไม่ปิดบังพร้อมทั้งยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้กับลิเออร์มากขึ้นก่อนที่จะกดริมฝีปากลงกับกลีบปากของเขาโดยไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด

นิกซ์และเขาจ้องมองสบตากันเราต่างก็รับรู้ได้ดีว่าเราทั้งคู่นั่นรู้สึกเหมือนกันมากขนาดไหนและมันก็มากพอที่จะทำให้เขาและนิกซ์อยู่ด้วยกันได้ตลอดไปจนกว่าจะครบสิ้นอายุขัยของตัวเอง

ฉันรักนายนะ
ผมก็รักคุณครับ





END



#TROUBLE614
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะชาวชานแบคทุกคน
ด้วยรัก

gustmorning

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CUT SCENE : [ OS : MARKMIN ] Naked (2/3)

Author gustmorning            แจมินเอ่ยจบประโยคก่อนที่เรียวนิ้วของอีกฝ่ายจะจับเข้าที่เม็ดกระดุมแล้วปลดมันออกจากรังดุมเสื้อสีขาวสะอาดบนตัว ดวงตาโตสวยสบเข้ากับดวงตาคมของมาร์คที่กำลังนอนมองแจมินอยู่พร้อมกับเรียวลิ้นของมาร์คที่ไล่เลียกรอบปากของตัวเองเมื่อแจมินกำลังถอดเสื้อออกจากเรือนร่างบอบบาง             จะยั่วกันไปถึงไหนวะ …             สะโพกและบั้นท้ายกลมกลึงใต้เนื้อกางเกงยีนส์ชั้นดีขยับเขยื้อนสัมผัสเข้ากับส่วนกลางลำตัวของเขาที่มันกำลังแข็งขื่นขึ้นมาจนคับแน่นภายในตัวไปหมด             มาร์คกำลังอดทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าเพื่อที่จะรอดูว่าแจมินจะจัดการยังไงต่อกับความต้องการที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของตัวเอง             แจมินโน้มตัวลงมาก่อนที่หน้าอกบางเปลือยเปล่านั่นจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกแกร่งของเขา ริมฝีปากเจ่อแดงของอีกฝ่ายกดฝังลงที่ซอกคอของเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะขบกัดดูดดึงลำคอของเขาจนมันเกิดรอยแบบเดียวกับที่มาร์คทำลงบนคอเรียวของแจมิน             เรียวลิ้นชื้นของอีกฝ่ายแลบเลียไปตามกรอบหน้าเขาน้อยๆก่อนที่เจ้าตัวจะกดกลีบปากนุ่มหยุ่นของตัวเองลงมาที่ริมฝีปากของเขา

When sunrise, When I’m inside you (mark x jaemin) chapter two

// Short fic When sunrise, When I’m inside you #markmin chapter two rate, 18 + hashtag, # ตะวันฉายแสง // “ มาร์คัสไปไหน ” เสียงแจ้วของคุณหนูเจสเปอร์ดังขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับแรงลมพัดเบาให้ผมสีทองสลวยปลิวลู่ไปเล็กน้อย สาวรับใช้รับเอาแก้วเปล่าไร้ซึ่งของเหลวอย่างน้ำองุ่นก่อนหน้านี้ไปวางไว้บนถาดด้วยท่าทางอำอึ้งเก้กังให้ร่างผ่องเกิดความสงสัย “ มาร์คัสไปไหน ” เสียงถามย้ำนิ่งๆ แต่กลับกดเข้มยิ่งเพิ่มความเป็นกังวลให้สาวรับใช้มากขึ้นก่อนที่เบลล์สาวรับใช้คนสนิทจะเดินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งเอาเสื้อคลุมสีขาวมาสวมใส่ให้เจ้าของร่างผ่องอย่างช้าๆ พลางเริ่มเกริ่นพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบและค่อยเป็นค่อยไป “ คุณมาร์คัสได้รับเรื่องจากคุณท่านกะทันหันเมื่อคืนค่ะ ” “ เรื่องอะไร ” “ ไม่ทราบค่ะคุณหนู ” “ แต่มาร์คัสเป็นคนสนิทของฉัน คุณพ่อต้องบอกฉันด้วยสิ ” คุณหนูแสนเอาแต่ใจเริ่มมีทีท่าทางหงุดหงิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินสิ่งที่สาวรับใช้พูดบอกออกมา คิ้วเรียวสวยเข้ารูปเริ่มขมวดเข้าหากันแน่นก่อนที่เสียงเปิดประตูจะดังขึ้นตามมาด้วยร่างสูงของพี่ชายร่ว

(os) This is a secret of us, markmin

// (os) This is a secret of us mark x jaemin rate, 19 + hashtag, # ความลับของมาร์คมิน //             “ เดือนนี้เป็นหนที่สองแล้วนะแจมิน ” เสียงของผู้หญิงในวัยสี่สิบต้นๆพูดขึ้นด้วยความเอือมระอาไม่น้อย เธอทอดมองลูกชายตัวดื้อผ่านกระจกมองหลังที่กำลังนั่งวางมือเท้าคางมองออกนอกหน้าต่างรถอย่างที่ชอบทำประจำเวลาไม่อยากใส่ใจอะไรสักอย่าง             “ พวกนั้นหาเรื่องน้องแจมินก่อนนะฮะมัม ”             “ แต่ลูกทำเขาเข้าโรงพยาบาลสองคนเลยนะ ” เธอเอ่ยพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเด็กดื้อของตัวเองกำลังทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย แจมินขยับนั่งตัวตรงพิงแผ่นหลังไปกับพนักพิงของเบาะรถก่อนที่จะกอดอกมองสบตาผู้เป็นแม่ด้วยความขอโทษพร้อมกับบึนปากบางๆของตัวเองขึ้นอย่างน่าเอ็นดูขึ้นผิดกับรอยแผลแตกเลือดซึมที่มุมปากและความฟกช้ำบริเวณซีกแก้มขวาสองจุด             “ น้องแจมินซอรี่ฮะมัม ”             “ มัมละแพ้ลูกอ้อนขอโทษของลูกแบบนี้จริงๆเลยแจมิน ” แม่ของแจมินเอ่ยพูดบอกออกมาพลางส่ายหน้าส่ายหัวเบาๆพร้อมกับหักเลี้ยวพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทา